รถยนต์ที่เราเห็นวิ่งกันบนท้องถนนล้วนแล้วแต่มีกระจกรอบคัน เพื่อป้องกันลม ฝุ่นละออง แมลง ฯลฯ แน่นอนกระจกก็คือกระจกที่มีลักษณ์ใสสามารถมองทะลุได้ แต่มีน้อยคนที่จะรู้ว่ากระจกที่อยู่บนรถยนต์นั้นไม่ใช่กระจกธรรมดา
กระจกรถยนต์
กระจกของรถยนต์ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ยี่ห้ออะไร หรือจะอยู่ส่วนดของรถก็ตามกระจกพวกนี้จะเป็นกระจกนิรภัยทั้งสิ้น โดยหลักๆ จะแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท
1. กระจกนิรภัยชั้นเดียว (TEMPERED SAFETY GLASS)
เจ้ากระจกนิรภัยแบบชั้นเดียวที่ติดตั้งไว้บนรถยนต์นี้ เมื่อกระจกเกิดแตกจะมีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ หากแตกบริเวณกึ่งกลางจะมีลักษณะเป็นเม็ดใหญ่กว่าริมกระจก ในด้านความปลอดภัยที่ตรงกลางแตกแล้วเป็นเม็ดใหญ่กว่าเพราะให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นทัศนวิสัยได้ดี โดยเรียกบริเวณนี้ว่า โซนเทมเปอร์ (ZONE TEMPER)
2. กระจกนิรภัยหลายชั้น (LAMINATED SAFETY GLASS)
กระจกนิรภัยแบบหลายชั้นหรืออีกชื่อหนึ่งว่ากระจกลามิเนท (LAMINATED GLASS) เป็นกระจกที่ให้ความปลอดภัยสูง ด้วยการนำเอาจกสองแผ่นขึ้นไปมาประกบกันโดยมีแผ่นฟิล์ม (POLYVINYL BUTYRAL : PVB) คั่นอยู่ระหว่างกระจกกับกระจก เพื่อสร้างความเหนียวและแข็งแรงที่มากขึ้น เมื่อกระจกนิรภัยหลายชั้นหรือกระจกลามิเนทเกิดแตก จะแตกเป็นลักษณะคล้ายใยแมงมุม ในปัจจุบันกระจกหน้ารถส่วนใหญ่จะใช้กระจกประเภทนี้
ทำให้ข้อดีของกระจกนิรภัยแบบหลายชั้นมีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเศษกระจกที่จะไม่ทำอันตรายแก่ผู้ขับขี่เมื่อยามเกิดเหตุ ในขณะที่กระแตกหรือร้าวยังสามารถมองเห็นทัศวิสัยได้อยู่ และเมื่อกระจกร้าวยังสามารถกันน้ำกันฝุ่นได้อยู่ระดับหนึ่ง โดยยังไม่ต้องเปลี่ยนในทันที
เป็นยังไงบ้างครับกับเรื่องกระจกรถยนต์ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงสาระดีๆ เกี่ยวกับการดูแลและขับขี่รถอย่างปลอดภัย การจัดแสดงรถยนต์อื่นๆ ได้ที่ Thaicarlover.com ครับ
ภาพจาก : news.boldride, cloudfront, goautoglasscalgary, grouponcdn