Toyota ได้สร้างสรรค์ระบบส่งกำลังแบบไฮบริดในรถยนต์หลายรุ่น พร้อมกันนี้ยังได้วางจำหน่ายรถยนต์ระบบไฮบริดในตลาดทั่วโลก รวมถึงที่ตลาดสหรัฐอเมริกาเป็นจำนวนมาก จนถึงวันนี้ระบบส่งกำลังดังกล่าวยังไม่เคยถูกผลิตบนพื้นดินของประเทศนี้เลย แต่การเปลี่ยนแปลงกำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า
บริษัทจากญี่ปุ่นได้ลงทุนเม็ดเงินจำนวน $373.8 ล้าน ในการเริ่มต้นผลิตระบบส่งกำลังแบบไฮบริด เพื่อวางจำหน่ายในประเทศที่มียอดขายรถยนต์ระบบไฮบริดมากที่สุด
เม็ดเงินดังกล่าวส่วนใหญ่จะนำไปลงทุนในโรงงาน 2 แห่ง ได้แก่โรงงานผลิตเครื่องยนต์ในรัฐเคนทักกี โดยโตโยต้าได้ลงทุนไป $120 ล้าน เพื่อผลิตเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 2.5 ลิตร และโรงงานผลิตชุดเกียร์ ในรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย ซึ่งลงทุนไป $115 ล้าน เพื่อผลิตชุดเพลาส่งกำลังแบบไฮบริด (Hybrid Transaxle )
สำหรับเงินที่เหลือทางบริษัท Toyota ได้นำเงิน $106 ล้าน ลุงทุนที่โรงงานผลิตเครื่องยนต์ในรัฐแอละแบมา และนำเงิน $17 ล้าน และ $14.5 ล้าน ไปลงทุนในโรงงานผลิตอะลูมิเนียม ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐเทนเนสซี และรัฐมิสซูรี ตามลำดับ
ผลรวมการลงทุนใกล้เป้าหมายที่ Akio Toyoda ซีอีโอของโตโยต้าได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ โดยเขาให้คำมั่นสัญญาว่าจะลงทุนเงินในสหรัฐอเมริกาเป็นจำนวน $1 หมื่นล้าน ซึ่งถึงตอนนี้ตัวเลขอยู่ที่ $4 พันล้าน
Toyota ยังบอกว่าตนเองคือผู้ผลิตรถยนต์ระบบไฮบริดรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก จนถึงตอนนี้ผลิตไปแล้วมากกว่า 10 ล้านคัน และประมาณ 3 ล้านคัน ได้ถูกนำไปจำหน่ายในตลาดเมืองลุงแซม นอกจากนี้ Toyota Prius PHV ยังได้รับตำแหน่งเป็นรถยนต์ระบบ Plug-In ที่ขายดีที่สุดในโลก
การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ทำให้เห็นทิศทางของรถยนต์ระบบไฮบริด และรถพลังงานไฟฟ้าที่กำลังจะกลายเป็นรถยนต์กระแสหลักในอนาคต ซึ่งสังเกตได้จากหลาย ๆ ประเทศกำลังวางแผนยกเลิกการจำหน่ายรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซล และเบนซิน เช่น ฝรั่งเศสจะแบนรถเครื่องดีเซล/เบนซิน พร้อมกันนั้น 4 เมืองใหญ ๆ ของโลกได้ทำข้อตกลงห้ามรถยนต์ดีเซลวิ่งภายในเมือง
เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงสาระดี ๆ เกี่ยวกับการดูแลและขับขี่รถอย่างปลอดภัย การจัดแสดงรถยนต์อื่น ๆ ได้ที่ Thaicarlover.com ครับ