ลัมโบร์กีนี 4 ประตูรุ่นแรกของบริษัทอย่าง Lamborghini Espada และ Lamborghini Islero คูเป้สไตล์ 2+2 ได้เดินทางมาถึงปีที่ 50 จึงทำให้ค่ายกระทิงดุใช้โอกาสนี้เฉลิมฉลองการท่องเที่ยวไปบนแผ่นดินบ้านเกิด
งานดังกล่าวรับผิดชอบโดย Polo Storico แผนกฟื้นฟู บูรณะกระทิงดุรุ่นเก่า การเดินทางเริ่มขึ้นในวันที่ 7 กันยายนที่เมืองเปรูจา ก่อนเดินทางผ่านแคว้นอุมเบรีย ไปต่อยังแคว้นตอสคานา และแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญา โดย Lamborghini Espada และ Lamborghini Islero ทั้งหมด 20 คันได้เดินทางผ่านทิวเขาที่งดงาม และเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ซึ่งรวมแล้วเป็นระยะทางกว่า 800 กิโลเมตร
คลาสสิกคาร์ทั้ง 2 รุ่นที่เข้าร่วมการเดินทางในครั้งนี้ไม่มีเพียงแต่จากเหล่าแฟน ๆ เท่านั้น มันยังมีของ Lamborghini Museum ได้แก่ Espada Series 3 สีน้ำเงิน Blue Notte ที่ผลิตขึ้นในปี 1976 และ Islero สีแดง Rosso Amaranto ที่สร้างขึ้นในปี 1968 แม้กระทิงดุฝูงนี้จะมีอายุกว่า 50 ปี แต่การเดินทางไปบนเส้นทางอันท้าทาย ก็ไม่ได้ทำให้มันพบปัญหาแต่อย่างใด และมันไปถึง Sant’Agata Bolognese ในสภาพที่ดีเยี่ยม
แม้ว่าเหล่ารถคลาสสิกที่มาร่วมเฉลิมฉลองโอกาสนี้จะมีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก แต่ในตอนท้ายของการเดินทางได้มีการมอบรางวัลให้แก่รถบางคันที่มีความพิเศษอย่างแท้จริง จะมีรางวัลอะไรตามไปดูกัน
Lamborghini Espada คันหนึ่งที่ผลิตในปี 1973 แซสซี 9300 ได้รับรางวัลมีเจ้าคนเดียวที่ยาวนานมากที่สุด โดยกระทิงดุคันนี้อยู่ในการครอบครองจากเจ้าของคนเดียวมาตั้งแต่ปี 1977 ซึ่งสามีภรรยาชาวอังกฤษซื้อมันไปใช้งานในชีวิตประจำวัน ขับไปทำงาน และส่งลูกไปโรงเรียน เมื่อเร็ว ๆ นี้มันก็ได้รับการปรับปรุงซ่อมแซม ซึ่งเรียกได้ว่ามันคือส่วนหนึ่งของครอบครัวเลยทีเดียว
ถัดมาเป็นรางวัลที่มอบให้แก่รถยนต์ที่มาไกลที่สุด โดย Lamborghini Espada Series 2 แซสซี 8386 ซึ่งเป็น 1 ใน 12 คันที่ออกแบบด้วยชุด VIP คันนี้เป็นของพ่อ และลูกชาวนอร์เวย์ที่ได้ขับมาจากเมืองออสโล รวมระยะทางไปกลับไกลถึง 6,000 กม.
สุดท้ายเป็นรางวัลรถยนต์ที่มีความ “จงรักภักดี” มากที่สุด โดย Lamborghini Islero S 1968 แซสซี 6435 คันนี้เป็นหนึ่งไม่กี่คันที่มาพร้อมพวงมาลัยขวา ซึ่งเจ้าของรถคันนี้เป็นของนักสะสมรถยนต์ชาวอังกฤษที่ในทุก ๆ ปีเขาจะขับมาจากเมืองผู้ดีเพื่อเข้ามารับการบริการที่ Sant’Agata Bolognese เป็นประจำทุกปี
เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ได้ที่ Thaicarlover.com หรืออีกหนึ่งช่องทางง่ายๆ จากทางแฟนเพจ เพียงกด