เหตุการณ์กลุ่มแท็กซี่พัทยาพยามล้อมจับอูเบอร์ได้กลายเป็นกระแสที่สังคมต่างกล่าวถึงอยู่หลาย ๆ เหตุการณ์ เหมือนอย่างเหตุการณ์ โดนหาว่าเป็น Uber ที่ เชียงใหม่ และเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมาได้มีเพจ DR.K v.3 ได้เผยแพร่คลิปวีดิโอของกลุ่มแท็กซี่ที่พยายามล้อมจับอูเบอร์ที่กำลังรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติบน Facebook พร้อมกับข้อความดังนี้
“#อสกข. นี้แท๊กซี่หรือมันเป็น ตร.ซะเองว่ะ ถึงออกตัวไล่จับอูเบอร์ซะออกนอกหน้าขนาดนี้
ทำไมยิ่งดูกูยิ่งเข้าข้างอูเบอร์วะ
#พิกัดพัทยา”
เมื่อคลิปวีโอดังกล่าวได้ถูกโพสต์บน Facebook แล้วต่างมีชาวโซเชียลข้ามาแสดงความคิดเห็นไปในทำนอง แท็กซี่ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปทำแบบนั้น หรือ แม้อูเบอร์ยังไม่ถูกกฏหมาย แต่ทำไมชาวต่างชาติถึงไว้ใจใช้บริการอูเบอร์
เหตุการณ์ในวีดิโอคือกลุ่มแท็กซี่ได้บอกให้อูเบอร์รอตำรวจโดยการยืนขวางรถไว้ และพยายามขอดูโทรศัพท์ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพื่อให้แน่ใจว่าได้เรียกอูเบอร์จริงหรือไม่ และมีชายในกลุ่มแท็กซี่ที่ล้อมจับได้กล่าวว่า “พี่กำลังหากินแบบผิดกฏหมาย”
เมื่อคู่กรณีทั้ง 2 ไปถึง สภ. เมืองพัทยา ตำรวจได้เปรียบเทียบปรับอูเบอร์จำนวน 1,000 บาทในข้อหาใช้รถผิดประเภทตามกฎหมาย และอูเบอร์ได้แจ้งข้อความกลุ่มแท็กซี่จำนวน 4 ราย โดยตำรวจได้เรียกกลุ่มคนดังกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหาดังต่อไปนี้
มาตรา 309 ฐานข่มขืนใจผู้อื่น โทษจำคุกไม่เกิน 3ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 310 ผู้ใดหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ม.55 กีดขวางการจราจร ปรับไม่เกิน 500 บาท
การกระทำดังกล่าวของกลุ่มแท็กซี่มันสมเหตุสมผลหรือไม่ และการเป็นอูเบอร์นั้นถูกต้องหรือไม่ ทางออกสำหรับกรณีดังกล่าวได้เป็นปัญหาของคนในอาชีพนี้มาพอสมควรแล้วจะแก้ไขอย่างไร หากสังเกตปัญหาดังกล่าวมักจะเกิดขึ้นในเมืองใหญ่ หรือเมืองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว และปัญหานั้นมาจากอะไรเราย่อมรู้อยู่แก่ใจใช่ไหมครับ
เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงสาระดี ๆ เกี่ยวกับการดูแลและขับขี่รถอย่างปลอดภัย การจัดแสดงรถยนต์อื่น ๆ ได้ที่ Thaicarlover.com ครับ