หลังจากที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้มีการเผยแพร่ ประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยได้เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนพ.ศ. 2563 วันนี้เราจะมาให้อธิบายให้เข้าใจกันง่ายๆ เกี่ยวกับรูปแบบใบสั่ง และวิธีการจ่ายค่าปรับกันครับ
โดยสำหรับ “ใบสั่ง” เจ้าพนักงานจราจรนั้นจะมี 2 รูปแบบ ด้วยกันคือ
1. แบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรสำหรับให้กับผู้ขับขี่ ติด ผูก หรือแสดงไว้ที่รถ มีขนาดกว้าง 14.5 เซนติเมตร ยาว 27 เซนติเมตร มีชุดละ 4 แผ่น โดยมีสี และวัตถุประสงค์สำหรับการใช้งาน
ดังนี้
- แผ่นที่หนึ่ง เป็นสีขาว ใช้สำหรับให้กับผู้ขับขี่ ติด ผูก หรือแสดงไว้ที่รถ
- แผ่นที่สอง เป็นสีเหลือง ใช้สำหรับส่งให้หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่เปรียบเทียบปรับคดีจราจรเพื่อทำการบันทึกข้อมูลใบสั่งในเครื่องคอมพิวเตอร์ของระบบสารสนเทศกลางที่เชื่อมโยงข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
- แผ่นที่สาม เป็นสีชมพู ใช้สำหรับมอบให้พนักงานสอบสวน
- แผ่นที่สี่ เป็นสีฟ้า ใช้สำหรับเป็นสำเนาคู่ฉบับเก็บไว้เป็นหลักฐานสำหรับผู้ออกใบสั่ง
2. แบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรสำหรับส่งทางไปรษณีย์ มีขนาดกว้าง 21 เซนติเมตร ยาว 29.7 เซนติเมตร และมีรายละเอียดเป็นไปตามแบบแนบท้ายประกาศนี้ มีชุดละ 2 แผ่น
- แผ่นที่หนึ่ง ใช้สำหรับส่งไปรษณีย์ให้กับผู้ขับขี่เจ้าของ หรือผู้ครอบครองรถ
- แผ่นที่สองใช้สำหรับเป็นสำเนาคู่ฉบับเก็บไว้เป็นหลักฐานสำหรับผู้ออกใบสั่ง
สำหรับผู้กระทำผิดสามารถชำระค่าปรับ ผ่านทางธนาคารกรุงไทย ได้ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือผ่านแอพพลิเคชัน KTB net bank หลังถูกออกใบสั่ง 2 วันทำการ หรือหากผู้กระทำผิดต้องการจ่ายเงินค่าปรับที่สถานีตำรวจท้องที่ ก็สามารถดำเนินการได้ทันที โดยใบสั่งนี้มีอายุ 7 วัน
แต่หากประชาชนเห็นว่าการแจ้งข้อหาจราจร หรือการออกใบสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย สามารถปฎิเสธข้อหาได้ ซึ่งตำรวจจะบันทึกข้อมูลการปฏิเสธด้านหลังใบสั่ง แต่ผู้ได้รับใบสั่ง จะต้องนำใบสั่ง และพยานหลักฐานไปแจ้งแจ้งต่อพนักงานสอบสวน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการตามกฎหมายภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับใบสั่ง หากตรวจสอบพบว่าผู้ได้รับใบสั่งไม่ได้กระทำผิดจริง เจ้าหน้าที่จะดำเนินการยกเลิกใบสั่งทันที
ที่มา : ราชกิจจานุเบกษา
เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ได้ที่ Thaicarlover.com หรืออีกหนึ่งช่องทางง่ายๆ จากทางแฟนเพจ เพียงกด