หลังจากที่แดดแผดเผาเจ้ารถคันเก่งอย่างทรมานมาเป็นเวลานาน ช่วงนี้ก็มีฝนตกให้ได้ชุมฉ่ำกันแทบทุกวันแล้ว แต่เมื่อฝนจากไป มันกลับทิ้งคราบไว้บนรถของเรา ทั้งๆที่เพิ่งล้างมาเอง จึงเกิดความเชื่อที่ว่า ฝนตก ไม่ล้างรถ เพราะเดี๋ยวมันก็ตกใหม่ นั่น คือลางร้ายแล้วครับ
อันตรายจากน้ำฝน
หลายคนคงสงสัยว่า จะล้างไปทำไม ก็แค่คราบเลอะ ล้างคราบออก เดี๋ยวก็เลอะอีก ถูกต้องครับ เลอะอีกแน่นอน แต่เดี๋ยวมาดูอันตรายที่อยู่ในน้ำฝนกันก่อนครับ ในนํ้าฝนจะมีฝุ่นละออง
ฝนตก ไม่ล้างรถ จะเป็นยังไง
ก็ต้องยอมรับครับว่า ในช่วงที่ในตกทุกวันแบบนี้ หากจะให้มาล้างรถทุกวันคงไม่ไหวแน่ เพราะผมเองก็เป็นหนึ่งคนที่ต้องจอดรถ และขับรถ ตากฝนทุกวันเหมือนกันครับ หากจะให้มานั่งล้างรถหลังเลิกงานทุกวันก็แย่ครับ ไม่เหนื่อยตาย ก็คาร์แคร์รวยไปก่อนพอดีครับ แต่หาก ฝนตก ไม่ล้างรถ เลยมันก็จะเจอกับสิ่งที่ผมกล่าวไปข้างต้น ถ้าอย่างนี้แนะนำให้ทำแบบผมครับ
ในวันที่ไม่มีเวลาจะล้างรถจริงๆ ให้เพื่อนๆ ใช้การฉีดน้ำสะอาดไล่ไปให้ทั่วรถ คือการฉีดไล่น้ำฝนที่เกาะอยู่บนรถออกให้หมดนั่นเองครับ จากนั้นก็เช็ดให้แห้งทุกซอกทุกมุม เพียงเท่านี้ก็ช่วยถนอมรถยนต์คันโปรดของเราจากน้ำฝนได้แล้วครับ
แต่หากมีเวลาและสมควรแก่เวลาในการล้างก็ล้างเลยนะครับ อย่าคิดว่าเดี๋ยวก็เลอะอีก สำคัญที่สุด ห้ามเช็ดแห้งโดยไม่ฉีดน้ำไล่ก่อนเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นฝุ่นละอองที่เกาะอยู่ในคราบน้ำฝน โคลน ทราย มันจะทำลายสีรถของเพื่อนๆให้เกิดรอยแน่ๆครับ และทางที่ดีหากมีเวลาล้างแบบเต็มขั้นตอนก็เคลือบสีเพื่อช่วยปกป้องสีรถไปด้วยเลยนะครับ
เพื่อนๆสามารถติดตามเรื่องราวดีๆในการดูแลรักษารถยนต์เรื่องอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ
- มาดูแลรถหน้าฝนกันเถอะ ด้วย 4 ขั้นตอนง่ายๆ
- ข้อควรปฏิบัติในการเติมน้ำมัน อย่างปลอดภัย
- ว่าด้วยเรื่อง ปะยาง มีกี่แบบ ปะแบบไหนดีกว่ากัน
- จริงหรือ ยกก้านปัดน้ำฝนตอนจอดรถ ยืดอายุยาง
พื่อนๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงสาระดีๆเกี่ยวกับการดูแลและขับขี่รถอย่างปลอดภัย การจัดแสดงรถยนต์อื่นๆ ได้ที่ Thaicarlover.com ครับ