หากเอ่ยชื่อหนึ่งในผู้นำด้านการผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลก คงต้องมีชื่อประเทศเยอรมันติดอยู่ในโผแน่นอน
ตั้งแต่โลกนี้มีการใช้รถยนต์เป็นต้นมา ประเทศเยอรมันมีการพัฒนาองค์ประกอบต่าง ๆ ของรถยนต์ต่อเนื่องกันมาหลายทศวรรษ และมีรถยนต์บางรุุ่นถึงขั้นเปลี่ยนประวัติศาสตร์วงการรถยนต์ไปเลย เนื่องจากการใช้เทคโนโลยีที่ล้ำยุค หรือความนิยมที่ล้ำสมัย…เชิญชมได้เลยครับ
1. Audi A4 (ออดี้ เอ4) 1994 – ปัจจุบัน
Audi A4 (ออดี้ เอ4) ผลิตโดย Volkswagen Group (โฟล์คสวาเกน กรุ๊ป ) เป็นรถผู้บริหารที่มีขนาดกะทัดรัด ความหรูหราระดับสุดยอด และราคาแพงมาก
การเลือกผลิตรถที่มีสีสัน ไม่ใช้สีดำอย่างเดียว ในการออกแบบเป็นเรื่องไม่คาดคิดสำหรับคู่แข่งในตลาดรถยนต์ผู้บริหาร
ออดี้เป็นผู้ผลิตรถยนต์ของยุโรปเจ้าแรกที่ใช้ระบบไฮบริด ซึ่งเป็นพื้นฐานของ A4 Avant นอกจากนี้ยังเป็นรุ่นแรกของ โฟล์กสวาเกน กรุ๊ป ที่ใช้เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร V20 ที่มี 5 วาล์ว ต่อสูบ ซึ่งเป็นพื้นฐานการออกแบบสำหรับการแข่งขันรถ Super Touring
2. Audi Quattro 1980–1991
แนวคิดเรื่อง ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ คุณภาพสูงถูกคิดค้นโดย Jörg Bensinger วิศวกรแซสซีของออดี้ในปี 1977 เขาค้นพบว่าทำไม Volkswagen Iltis มีประสิทธิภาพสูงกว่ารถยนต์คันอื่นที่ขับขี่ในหิมะ เขาเริ่มพัฒนา Audi 80 และพบว่ามีตัวแปรมากมายในการขับขีที่ไม่ดี
Audi Quattro เป็นรถแรลลี่ขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro มาจากภาษาอิตาลี แปลว่า “สี่” นับแต่นั้นมาออดี้ใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ รถคูเป้ 2 ประตู ของออดี้ได้กลายเป็นที่นิยมมากที่สุดในยุค 80
Audi Quattro เป็นรถยนต์แรลลี่คันแรกที่ใช้ประโยชน์การเปลี่ยนแปลงกฏอนุญาตให้ใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อในการแข่งขัน มันเป็นรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จในการแข่งขัน ในปีต่อๆ มา ค่ายรถยนต์ยังให้ความสำคัญกับระบบระบบกันสะเทือนแบบอิสระทั้งด้านหน้า และด้านหลัง
3. Audi R8 Audi R8 (ออดี้ อาร์8) 2007-2014
Audi R8 (ออดี้ อาร์8) ออกแบบ พัฒนา และผลิตโดย Audi AG เป็นรถยนต์สปอร์ตสองที่นั่งขนาดกลาง ใช้แพลตฟอร์มของ Lamborghini Gallardo นอกจากนี้ยังมีระบบ Quattro AWD ซึ่งออดี้ได้จดสิทธิบัตรถาวรไว้
รถยนต์ถูกสร้างขึ้นโดยใช้อลูมิเนียมสร้างตัวถัง และโครงเป็นชิ้นเดียวโดยยึดหลัก Space Frame ออดี้ซึ่งได้ประกาศคอนเซ็ปต์ในปี 2003 เผยโมเดลสำหรับการแข่งขันในปี 2005 และเปิดตัวรถยนต์สำหรับขับขี่บนถนนในปี 2007
Jacky Ickx นักแข่งผู้ชนะการแข่งขัน 24 Hours of Le Mans ถึง 6 ครั้ง ได้กล่าวว่า “Audi R8 คือรถยนต์บนถนนที่มีเสถียรภาพในการบังคับรถที่ดีที่สุดของวันนี้” และรุ่นนี้ถูกใช้ให้เป็นรถยนต์ประจำกายของตำรวจ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ระบบกันสะเทือน พวงมาลัย แบบสปอร์ต
4. BMW 328 (บีเอ็มดับเบิ้ลยู 328) 1936–1940
BMW 328 (บีเอ็มดับเบิ้ลยู 328) เป็นรถสปอร์ตคลาสสิกที่งดงามอย่างมาก ออกแบบโดย Fritz Fiedler และ Peter Szymanowski มีจุดเด่นเรื่องเครื่องยนต์คือ OHV 6 สูบแรง เกียร์ 4 สปีด BMW 328 ชนะการแข่งขันนับร้อยครั้งรวมถึงการชนะในการแข่งขัน Le Mans ปี1938
แต่ก็เป็นเรื่องน่าเสียดาย หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง โรงงานการผลิตในเมือง Eisenach เยอรมัน อยู่ภายใต้การควบคุมโดย พรรคคอมมิวนิสต์รัสเซีย ทำให้การผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่เป็นไปตามความต้องการของรัสเซีย จนกระทั้งเยอรมันกลับมาเป็นแผ่นดินเดียวกันในปี 1989
ข้อมูลทางเทคนิค BMW 328 และ BMW ถูกนำออกมาจากโรงงานของ BMW ก่อนที่มันจะโดนทิ้งระเบิด โดยตัวแทนของบริษัท Bristol Aeroplane และบริษัท Frazer Nash ซึ่งรถยนต์ 400 คันแรกของ Bristol ถูกออกแบบโดยเน้นตามข้อมูลทางเทคนิคจากที่ได้มาในเยอรมัน และการออกแบบรถยนต์ของ Bristol ยังถูกนำไปใช้ในรถยนต์ของ AC อีกด้วย
5. BMW Series 3 (บีเอ็มดับเบิ้ลยู ซีรีย์ 3) 1975-ปัจจุบัน
BMW Series 3 (บีเอ็มดับเบิ้ลยู ซีรีย์ 3) ได้รับความนิยม และเป็นรถยนต์ที่ขายดีตลอดกาล ผลิตในรูปแบบที่แตกต่างกัน 6 รูปแบบ กับบอดี้ที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันถึง 5 อย่าง มันเป็นรถยนต์ขนาดกะทัดรัดสำหรับผู้บริหาร ซึ่งได้ครอบครองพื้นที่ในตลาดรถหรู และกลายเป็นหนึ่งในรถยนต์ระดับหรูที่มียอดขายสูงสุดตลอดกาล การขาย BMW Series 3 ได้เพิ่มยอดขาย 30 % จากการขายรถยนต์ BMW ทั้งหมด
เจนฯ แรกอย่าง E21 ได้เปิดตัวในช่วงที่วิกฤตน้ำมันอยู่ในช่วงสูงสุด รถยนต์ที่มีขนาดกะทัดรัด ความหรูหรา อัตราการใช้น้ำมันที่ประหยัดกว่ารถยนต์คันอื่นๆ ที่อยู่ในระดับเดียวกัน ช่วยให้มันพุ่งเข้าสู่ความสำเร็จอย่างทันที Series 3 ได้รับรางวัล และเกียรติยศอย่างมากมาย และมันยังได้ถูกผลิตมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนให้เห็นความนิยมในตัวมันได้เป็นอย่างดี