สำหรับรถคลาสสิค (Classic Car) แนวเรโทร (Retro Car) ญี่ปุ่น “ซามูไรวินเทจย้อนๆ” อีกคัน ที่ทาง ThaiCarLover.com ขอนำเสนอต่อ ในคอลัมน์ ต่อจากที่นำเสนอเจ้า รถคลาสสิค Subaru 1000 ไปแล้ว คือ ตำนานรถญี่ปุ่น ย้อนๆ กับไปราวๆ 30 กว่าปีที่แล้ว  ของค่ายรถที่ส่วนใหญ่แล้วมักจะผลิตรถเล็กๆ น่ารักๆ ออกมา นอกเหนือจากงานหลักที่ผลิตมอเตอร์ไซต์

Suzuki Alto ปี 1979 ในงานมหกรรมรถยนต์

ขอเชิญทุกท่านพบกับเจ้ารถคลาสสิคย้อนๆ ซูซูกิ อัลโต้ 101 (Suzuki Alto 101) หรือในบางประเทศจะเรียกว่า Suzuki SS80 รุ่นที่ 1 ซึ่งเออกมาในปี 1979 แทนรุ่นก่อนหน้า คือ ซูซูกิ ฟรอนเต้ (Suzuki Fronte) โดยในช่วงต้นนั้นเจ้า อัลโต้ ได้มีการใส่เครื่องยนต์รหัส T5B 3 สูบ  ขนาด 539 cc 28 แรงม้า (21 kw) ที่ 5,500 รอบ/ นาที  ซึ่งต่อมามีการนำเสนอเครื่องขนาดใหญ่กว่า คือ 543 ซีซี ในรหัส F5A ซึ่งมีแรงม้าที่เท่าเดิม แต่จะมีแรงบิดที่ต่ำกว่าตัวก่อนหน้า ในปี 1981

คุณทวดมาเจอกับคุณหลาน Suzuki Alto รุ่นล่า

ตัวถังของเจ้า Alto ถังแฮทช์แบค 3 และ 5 ประตู ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ในช่วงแรกที่เปิดตัวมีเฉพาะรุ่นเกียร์ธรรมดา 4 สปีด และจึงมีรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 2 สปีด ตามมาในปี 1980

ภายในของ Suzuki Alto ปี 1979

อัลโต้ Gen 1 ตัวนี้ เป็นรถที่สร้างปรากฏการณ์ต่อตลาดยานยนต์ญี่ปุ่น ด้วยการเป็นรถยนต์ที่สุดแสนจะราคาเป็นมิตรสุดๆ ในสมัยนั้น เพราะมีราคาเพียงแค่ 470,000 เยน ซึ่งเทียบกับรถยนต์อื่นๆ จะพบว่าราคาขายของอัลโต้นั้นถูกมาก เช่น โตโยต้า โคโรลล่า (Toyota Corolla) ราคาในขณะนั้น 924,000 เยน โตโยต้า สตาร์เลท (Toyota Staret) ราคาในขณะนั้น 823,000 เยน ซูซูกิ ฟรอนเต (Suzuki Fronte) เองก็มีราคาในขณะนั้น 655,000 เยน และเมื่อเปรียบเทียบกับสินค้าอื่นๆ อย่าง คอมพิวเตอร์ ราคาในขณะนั้น 123,000 เยน โทรทัศน์สี ราคาในขณะนั้น 140,000 เยน เครื่องเล่นวีดีโอ ราคาในขณะนั้น 280,000 เยน วิทยุกระเป๋าหิ้ว ราคาในขณะนั้น 72,500 เยน จากการที่ราคาขายถูกมาก ทำให้สามารถเป็นอันดับ 1 ของตลาดรถยนต์เล็ก (Kei Car) ในญี่ปุ่นได้ในเวลาอันรวดเร็ว

โฆษณาเจ้า SS80 (Suzuki Alto) ประหยัดจริงๆ

สำหรับเพื่อนๆ ที่ชอบรถคลาสสิค (Classic Car) รถเรโทร (Retro Car) และ มัสเซิลคาร์ (Muscle car) อย่าพลาดติดตามว่าในครั้งถัดไปเราจะนำรถอะไรมานำเสนอให้เพื่อนๆ ชมกันนะครับ

ติดตามข่าวรถยนต์ใหม่ 2013 พร้อมทั้งอัลบั้มรูปรถยนต์เด่นๆ พริตตี้น่ารักๆ รวมถึงความเคลื่อนไหวในวงการรถยนต์ทั้งไทย และต่างประเทศได้ที่ Thaicarlover.com เช่นเคยครับ