ในอุตสาหกรรมยานยนต์เต็มไปด้วยการซื้อกิจการ และการเป็นพันธมิตรซึ่งกันและกัน ล่าสุด 2 พันมิตรอย่าง Renault-Nissan (เรโนลด์-นิสสัน) กำลังหาทางที่จะควบรวมกิจการกัน
ตามการรายงานของบลูมเบิร์ก Carlos Ghosn ประธานของคู่พันธมิตรกำลังผลักดันให้เกิดการควบรวมกิจการระหว่างผู้ผลิตรถยนต์จากฝรั่งเศส และญี่ปุ่น โดย Renault ถือหุ้น Nissan ที่ 43% และ Nissan ถือหุ้น Renault ที่ 15%
ถ้าหากการควบรวมกิจการของทั้ง 2 บริษัทสำเร็จจะทำให้บริษัทรถยนต์แห่งนี้เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลก โดยปีที่ผ่านมาคู่พันธมิตร Renault และ Nissan มียอดขาย 10.61 ล้านคัน (รวมแบรนด์ต่าง ๆ ด้วย) ซึ่งมากกว่า Volkswagen Group ที่ขายไป 10.53 ล้านคัน และ Toyota ที่ขายไป 10.2 ล้านคัน นอกจากนี้ Ghosn มุ่งหวังว่าในปี 2022 คู่พันธมิตรจะมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 14 ล้านคัน
ในรายงานของบลูมเบิร์กไม่ได้คาดการณ์ว่า Ghosn ที่เป็นผู้บริหารซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานบริษัทรถยนต์ Renault, Nissan, Mitsubishi และค่ายรถจากรัสเซียอย่าง AvtoVAZ จะนำสองบริษัทหลังสุดเข้าสู่การควบรวมกิจการใหม่อย่างไร
แต่อย่างไรก็ตามนิสสัน เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของมิตซูบิชิ และเรโนลต์ เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ AvtoVAZ และทั้งสองยังมีแบรนด์อื่น ๆ ที่อยู่ภายใต้ร่มเงาของตัวเองเช่นกัน ได้แก่ Infiniti, Datsun, Alpine, Dacia, และ Renault Samsung Motors ซึ่งคาดว่าหากคู่พันธมิตรควบรวมกิจการสำเร็จ คำถามข้างต้นคงจะคำตอบ
แต่ปัญหาการควบรวมกิจการอาจจะมาจากรัฐบาลฝรั่งเศสที่ถือหุ้นของ Renault อยู่ 15% อาจจะไม่เต็มใจละทิ้งหุ้นเพื่อการควบรวมครั้งนี้ และยังมีสิทธิ์มีเสียงในบริษัทใหม่ลดลงอีกด้วย รวมถึงปัญหาที่ทั้ง 2 บริษัทจะต้องตกลงว่าสำนักงานใหญ่จะอยู่ที่ฝรั่งเศส หรือที่ญี่ปุ่น
เครดิต : Bloomberg
ต้องคอยติดตามกันไป หากแผนการครั้งนี้สำเร็จเราอาจจะได้เห็นรถยนต์ที่เจ๋ง ๆ จากค่ายแน่อย่างแน่นอน
เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงสาระดี ๆ เกี่ยวกับการดูแลและขับขี่รถอย่างปลอดภัย การจัดแสดงรถยนต์อื่น ๆ ได้ที่ Thaicarlover.com ครับ