ศาลปกครองกลางแห่งเยอรมนี ในเมืองไลป์ซิก ได้ดำเนินการต่อผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศอย่างจริงจัง ด้วยการให้แต่ละเมืองสามารถออกกฎห้ามใช้งานรถยนต์ที่ใช้เครื่องดีเซลแบบเก่า
ตามการรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ส เผยว่าเมืองสตุ๊ตการ์ท ที่เป็นบ้านเกิดของ Daimler อาจจะห้ามใช้รถยนต์ดีเซลมาตรฐาน Euro-4 ในเดือนมกราคม 2019 และจะแบนรถยนต์ดีเซลมาตรฐาน Euro-5 ในปลายปีเดียวกัน ในขณะที่บางเมืองได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ไปแล้ว อย่างเมืองฮัมบูร์กจะเริ่มประกาศสถานที่ห้ามใช้งานรถยนต์เครื่องดีเซลในไม่กี่เดือนข้างหน้า
นักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมต่างสนับสนุนในคำสั่งดังกล่าว แต่ยังไม่เป็นผลดีต่อนักการเมือง และผู้ผลิตรถยนต์เครื่องดีเซลจำนวนมาก โดย Christian Schmidt รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเยอรมัน เป็นหนึ่งในคนที่ไม่พอใจคำสั่งดังกล่าว โดยเขากล่าวว่า “เราต้องทำทุกอย่างเพื่อป้องกันการสูญเสียเสรีภาพส่วนบุคคล รวมถึงการลดมูลค่าของรถยนต์”
สิ่งเหล่านี้มีสองประเด็นหลักที่เกี่ยวข้อง และส่งผลกระทบกับเจ้าของรถยนต์เครื่องดีเซล คือไม่เพียงแต่เจ้าของรถถูกห้ามไม่ให้ขับขี่ไปในเมืองต่าง ๆ แล้ว มูลค่าราคาของรถพวกเขาแทบจะไม่มี หรืออาจจะขายต่อได้ยาก คงทำได้เพียงจอดอยู่ที่บ้าน นอกจากนี้สำหรับผู้ที่กำลังจะคิดซื้อรถยนต์ใหม่ จะมีใครซื้อรถที่สามารถขับขี่ได้เฉพาะบางพื้นที่เท่านั้น
หากข้อบังคับเหล่านี้ถูกนำไปใช้ในหลายเมืองอาจจะก่อให้เกิดปัญหาร้ายแรงเนื่องจากใจเยอรมันมีรถที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลประมาณ 15 ล้านคัน และมีเพียงราว ๆ 2.7 ล้านคันเท่านั้นที่ผ่านมาตรฐาน Euro-6 ซึ่งหมายความว่ารถยนต์ 12.3 คัน อาจถูกห้ามใช้งานในอนาคตอันใกล้
หากไม่คำนึงถึงผลกระทบข้างต้น เชื่อว่าคำสั่งดังกล่าวจะช่วยให้เครื่องยนต์ดีเซลในยุโรปลดลง นอกจากนั้นสี่เมืองใหญ่ของโลกมีแผนที่จะห้ามรถเครื่องยนต์ดีเซลเข้าเมือง และนี่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการยกเลิกการใช้งานเครื่องยนต์สันดาปภายในของเยอรมัน
เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงสาระดี ๆ เกี่ยวกับการดูแลและขับขี่รถอย่างปลอดภัย การจัดแสดงรถยนต์อื่น ๆ ได้ที่ Thaicarlover.com ครับ