สำหรับรถคลาสสิค (Classic Car) ญี่ปุ่นเท่ห์ “ซามูไรวินเทจย้อนๆ” คันที่สอง ที่ทาง ThaiCarLover.com ขอนำเสนอต่อจากที่นำเสนอเจ้า รถคลาสสิค Datsun (Nissan) Fairlady 240Z ปี 1969 ไปแล้ว คือ สุดยอดรถสปอร์ตในตำนานอีกคันหนึ่ง ที่โด่งดังมากในยุค 90’s ในบ้านเรา
Toyota Supra Liftback Mark 1 Logo
ขอเชิญทุกท่านพบกันเจ้าโตโยต้า เซลิก้า ซูปร้า (Toyota Celica Supra) รุ่นหนึ่ง หรือ Mark I ซึ่งต่อยอดสปอร์ตสุดฮิตอย่างเจ้า Celica นั่นเอง แต่จะแตกต่างโดยการปรับเปลี่ยนโฉมเรื่องรูปร่างและบอดี้ให้ยาวและกว้างขึ้น จึงมีการใช้ชื่อเซลิก้านำหน้าไว้ จนกระทั้ง Generation ที่ 3 ในปี 1986 ซึ่งมีการแยกใช้รุ่น Supra เดี่ยวๆ เลย
Toyota Supra Liftback Mark 1 ปี 1978-81
กลับมาที่เจ้าซูปร้า มาร์ควัน ซึ่งการผลิตและจำหน่ายในปี 1978-81 นั้น เป็นรถ 3 ประตู (ลิฟท์แบค) มุ่งเน้นไว้ชนกับเจ้าดัสสัน Z หรือเจ้า Datsun Fairlady 240Z โดยเจ้าซุปร้า Mark I นั้นมีทั้งระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และแบบอัตโนมัติ 4 สปีต พร้อมโอเวอร์ไดรฟ์ ระบบเบรกที่ใช้จะเป็นแบบดิสเบรกทั้ง 4 ล้อ โดยช่วงล่างหน้าเป็นแบบ แมคเฟอร์สันสตรัท (MacPherson struts) และหลังเป็นแบบคอยล์สปริง (Coil Spring)
1981 Toyota Supra Hatchback Mark 1 TRD Turbo ด้านหลัง
เครื่องยนต์มีทั้งแบบ 2.0 ลิตร 12 วาวล์ แบบ SOHC 6 สูบเรียง (inline-6 engine) 110 แรงม้า (82 kw) และเครื่อง 2.5 ลิตร รหัส 4M-E 12 วาวล์ แบบ SOHC 6 สูบเรียง (inline-6 engine) 110 แรงม้า (82 kw) สำหรับเวอร์ชั่นส่งออกต่างประเทศ ซึ่งมีการส่งออก (นอกญี่ปุ่น) ต้นปี 1979 ในส่วนของการตกแต่งภายในเป็นแบบสปอร์ต โดยในส่วนของกระจกไฟฟ้า เซ็นทรัลล๊อค และครุยส์ คอนโทรล (Cruise Control) และซันรูฟ (Sunroof) จะมีสำหรับรุ่นพิเศษในยุคนั้น
เครื่อง M-EU ในโตโยต้า Celica Supra ปี 1978-81
และในช่วงกลางปี 1980 เจ้าซูปร้าได้มีการอัพเกรดเครื่องยนต์ใหม่เป็นขนาดเครื่อง 2.8 ลิตร 12 วาว์ล แบบ SOHC มีแรงม้าเพิ่มขึ้นเป็น 116 แรงม้า ภายใต้รหัส 5M-E ซึ่งสามารถทำความเร็ว 0-60 ไมล์ที่ 10.24 วินาที
1981 Toyota Supra Hatchback Mark 1 TRD Turbo ด้านข้าง
สำหรับเพื่อนๆ ที่ชอบรถคลาสสิค (Classic Car) รถเรโทร (Retro Car) และ มัสเซิลคาร์ (Muscle car) อย่าพลาดติดตามว่าในครั้งถัดไปเราจะนำรถอะไรมานำเสนอให้เพื่อนๆ ชมกันนะครับ
ติดตามข่าวรถยนต์ใหม่ 2013 พร้อมทั้งอัลบั้มรูปรถยนต์เด่นๆ พริตตี้น่ารักๆ รวมถึงความเคลื่อนไหวในวงการรถยนต์ทั้งไทย และต่างประเทศได้ที่ Thaicarlover.com เช่นเคยครับ