และแล้วตลาดยุโรปก็ได้พบกับ All-new Mazda3 เมื่อผู้ผลิตชาวญี่ปุ่นได้ปล่อยสเปค และข้อมูลคอมแพ็คคาร์รุ่นใหม่ของค่ายที่มีขุมพลังเบนซิน และดีเซลให้เลือกถึง 3 แบบ ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรตามไปดูกัน
เครื่องยนต์ Skyactiv-D
เริ่มกันที่เครื่องยนต์เทอร์โบ ดีเซล Skyactiv-D ขนาด 1.8 ลิตร แบบใหม่ซึ่งได้เข้ามาแทนที่ขุมพลังขนาด 1.5 ลิตร และ 2.2 ลิตรของรุ่นก่อนหน้านี้ โดยมันให้กำลัง 116 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที และมีแรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,600 รอบต่อนาที ส่วนอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจะใช้เพียง 4.7 ลิตร/ 100 กม. มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 130 กรัม/กม.
เครื่องยนต์ Skyactiv-G
ถัดมาคือเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ ให้กำลัง 122 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที และมีแรงบิดสูงสุด 213 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที นอกจากนี้ระบบ Mild Hybrid รุ่นใหม่ของมาสด้าอย่าง M Hybrid 24V แบตเตอรี่ Lithium- ion 600 kJ และเทคโนโลยีหยุดการทำงานของลูกสูบช่วยให้ Mazda3 รุ่นนี้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น และปล่อยไอเสียน้อยลง โดยมีตัวเลขเฉลี่ยที่ 6.0 ลิตร/ 100 กม. และมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 136 กรัม/กม.
เครื่องยนต์ Skyactiv-X
สุดท้ายขุมพลังใหม่ที่ใครหลายคนกำลังรออย่างคาดหวังอย่างเครื่องยนต์ Skyactiv-X ซึ่งได้เปิดตัวใน Mazda3 2019 (มาสด้า 3 2019) โดยมันมาพร้อมเทคโนโลยีที่รวบรวมข้อดีของการจุดระเบิดด้วยประกายไฟ และจุดระเบิดด้วยการอัดฉีดเชื้อเพลิงมาใช้งานร่วมกัน
แม้ทาง Mazda ยังไม่เปิดเผยข้อมูลของ Skyactiv-X แต่มีข้อมูลรั่วไหลจาก Mazda สโลวาเกีย เผยว่ามันจะให้กำลัง 181 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุุด 222 นิวตันเมตร และเช่นเดี่ยวกับขุมพลัง Skyactiv-G มันจะทำงานรวมกับระบบ M Hybrid ซึ่งทางบริษัทได้โฆษณาว่าการออกตัวมีการตอบสนองที่เหนือกว่า และมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเหมือนกับเครื่องยนต์ดีเซล
ในตลาดยุโรปเครื่องยนต์ทั้ง 3 แบบจะเชื่อมต่อกับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และมีเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดเป็นตัวเลือกเสริม โดย Skyactiv-X จะทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อนแบบ i-Activ AWD (เฉพาะรุ่น 5 ประตู) และทุกรุ่นจะมาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่อย่าง G-Vectoring Control Plus (GVC Plus)
เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ได้ที่ Thaicarlover.com หรืออีกหนึ่งช่องทางง่ายๆ จากทางแฟนเพจ เพียงกด