เปิดตัว Nissan Kick e-Power 2020 ใหม่ ครั้งแรกกับรถยนต์คอมแพค เอสยูวี ที่มาพร้อมเทคโนโลยี e-POWER ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% โดยไม่ต้องชาร์จไฟ อีกขั้นของนวัตกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าแห่งอนาคตที่มีเพียงหนึ่งเดียวในรถยนต์นิสสันเท่านั้น ผสานเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัจฉริยะอย่าง Nissan Intelligent Mobility ที่ครบครัน
ภายนอก Nissan Kick e-Power 2020
เร้าใจในทุกมุมมอง กับสีทูโทนสะท้อนไลฟ์สไตล์ ที่แตกต่าง โดดเด่นเหนือใครด้วยการออกแบบสุดพรีเมียม มาพร้อมดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของนิสสันอย่าง กระจังหน้า V-Motion สีดำเงา และไฟหน้า LED เสริมด้วยระบบ Follow-Me-Home รวมถึงอุปกรณ์ อื่นๆ อาทิ เช่น
- ไฟเลี้ยว LED แบบ Boomerang Signature Light
- ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าแบบอัตโนมัติ
- สวิตซ์ปรับระดับไฟหน้า สูง-ต่ำ
- ไฟตัดหมอกคู่หน้า แบบ LED
- ไฟท้าย LED แบบ Boomerang Signature Light
- ไฟเบรก LED
- กระจกมองข้าง ปรับและพับ ด้วยไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวในตัว พับเก็บอัตโนมัติ เมื่อล็อครถ
- หลังคาลอยตัว แบบ Floating Roof
- เสาอากาศแบบครีบฉลาม Shark Fin
- พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่กว้างเกินคาด ความจุมากถึง 432 ลิตร และลึกถึง 900 มิลลิเมตร
- ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว 6.5J x 17″ สีทูโทน และยาง ขนาด 205/55 R17
ภายใน Nissan Kick e-Power 2020
โดดเด่น ด้วยแผงคอนโซล และเบาะหนัง สีทูโทนดำ – ส้มแทน พวงมาลัยหุ้มด้วยหนังปรับได้ 4 ทิศทาง มาพร้อมสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียง และ รับสาย บนพวงมาลัย เช่นเดียวกับแดชบอร์ดหน้าที่เป็นหนังสีดำ – ส้มอิฐ พร้อมเดินตะเข็บด้าย ส่วนช่องแอร์ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงา Piano Black ด้านอุปกรณ์อื่นประกอบไปด้วย
- มาตรวัดหน้าจอดิจิตอล แบบสี พร้อมจอแสดงข้อมูล MID ขนาด 7 นิ้ว
- มือเปิดประตูภายในห้องโดยสาร โครเมียม
- กล่องเก็บของคอนโซลกลาง พร้อมช่องชาร์จไฟ USB 2 ตำแหน่ง
- กระจกมองหลังแบบแสดงภาพจากกล้อง Intelligent Rear View Monitor
- ระบบกุญแจ Keyless Smart Entry
- ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ (Push Start Button)
- กระจกหน้าต่างไฟฟ้า ขึ้น-ลง อัตโนมัติฝั่งคนขับ
- ระบบป้องกันการหนีบ Protection Jam กระจกหน้าต่างฝั่งคน
ระบบความบันเทิง Nissan Kick e-Power 2020
มาพร้อมหน้าจอเครื่องเสียง ระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ AUX, Bluetooth, Nissan CONNECT, Apple CarPlay และลำโพงถึง 6 ตำแหน่ง
เทคโนโลยีอัจฉริยะ Nissan Intelligent Mobility
เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย กับพลังขับเคลื่อนที่ล้ำสมัย ไม่เพียงเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ แต่ยังยกระดับมาตรฐานใหม่ของรถยนต์ที่ปลอดภัยสูงสุดทุกการขับขี่ ประกอบไปด้วย
- Intelligent Around View Monitor (IAVM) เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะ มองภาพรอบทิศทาง
- Intelligent Cruise Control (ICC) ระบบควบคุมความเร็ว เคลื่อนตัวสลับหยุดนิ่งได้ตามรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ
- Intelligent Forward Collision Warning (IFCW) เทคโนโลยีช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัตโนมัติ ทำงานร่วมกับ Intelligent Emergency Braking (IEB) ระบบจะช่วยวิเคราะห์ระยะห่าง และความเร็วของรถยนต์ด้านหน้าเพื่อชะลอความเร็ว และหยุดรถ
- Blind Spot Warning (BSW) เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา
- Rear Cross Traffic Alert (RCTA) เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย
- Hill Start Assist (HSA) เทคโนโลยีช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน
- Driver Attention Alert (DAA) เทคโนโลยีช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้าขณะขับขี่
- One-Pedal เทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะ จะเร่งแซง หรือชะลอความเร็วก็ปลอดภัย เร่ง และเบรกในคันเร่งเดียว ทำให้การขับขี่เป็นเรื่องง่าย สนุก
ระบบความปลอดภัย Nissan Kick e-Power 2020
อีกขั้นของเทคโนโลยีความปลอดภัย มั่นใจได้ทุกสถานการณ์ ด้วยคุณภาพ และมาตรฐานความปลอดภัย จัดเต็มด้วยระบบต่าง อาทิ เช่น
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า – ด้านข้าง – ม่านนิรภัย)
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค (ABS)
- ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
- ระบบเสริมแรงเบรก (BA)
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า (EPB)
- ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (VDC)
- สัญญาณกะระยะช่วยจอดด้านหลัง
- สัญญาณกันขโมย
ขุมพลัง Nissan Kick e-Power 2020
เทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% โดยไม่ต้องชาร์จไฟ มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ รหัส HR12DE ขนาด 1.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 79 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 103 นิวตันเมตร ที่ 3,600 – 5,200 รอบ/นาที ทำหน้าที่ปั่นไฟไปเก็บยังแบตเตอรี่ (เครื่องยนต์ไม่มีหน้าที่ขับเคลื่อนส่งพละกำลังลงสู่ล้อ)
ส่วนพลังงานมอเตอร์ไฟฟ้า EM57 High Power ให้พละกำลังสูงสุด 129 แรงม้า ที่ 4,000 – 8,992 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตร ที่ 500 – 3,008 รอบ/นาที มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion 1.57 kWh 4 Modules
ราคา นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ 2020
เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ได้ที่ Thaicarlover.com หรืออีกหนึ่งช่องทางง่ายๆ จากทางแฟนเพจ เพียงกด