โตโยต้าได้จัดให้ Toyota Corolla อยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีความแข็งแกร่งที่สุดในตลาดยุโรปด้วยการนำเสนอตัวถัง 3 แบบ ระบบส่งกำลังไฮบริดรุ่นใหม่ 2 แบบ และเครื่องยนต์เบนซินอีก 2 ให้แก่ครอบครัวคอมแพ็คคาร์รุ่นใหม่รุ่นนี้
วันนี้โตโยต้ายุโรปได้ปล่อยข้อมูลในด้านประสิทธิภาพ และอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ Toyota Corolla ที่แต่ละตัวถังออกแบบมาอย่าง “โดดเด่นและมีเอกลักษณ์” โดยรุ่นซีดานจะมีด้านหน้าที่แตกต่างไปจากรุ่น 5 ประตู และรุ่น Touring Sports (Wagon)
1.เครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 1.8 ลิตร
นี่คือระบบส่งกำลังแบบเดียวที่นำเสนอใน Toyota Corolla ทุกตัวถัง โดยเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 1.8 ลิตร ให้กำลัง 122 แรงม้า และมีแรงบิด 142 นิวตันเมตร เมื่อเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าไปจะพัฒนากำลังขึ้นอีก 72 แรงม้า และเพิ่มแรงบิดสุงสุดถึง 163 นิวตันเมตร สุดท้ายทางโตโยต้าอ้างว่าในแต่ละวันสามารถขับขี่ด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้มากถึง 50%
สำหรับอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงนั่น Toyota Corolla รุ่น Hatchback และ Touring Sports (Wagon) มีตัวเลขต่ำเพียง 3.3 ลิตร/100 กม. ในขณะที่ Toyota Corolla รุ่น Sedan อยู่ที่ 3.4 ลิตร/100 กม.
สำหรับความเร็วสูงสุดของเครื่องยนต์นี้จะอยู่ที่ 180 กม./ชม. ส่วนอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. จะมีตัวเลขดังนี้รุ่นHatchback 10.9 วิ Touring Sports 11.1 วิ. และ Sedan 11.0 วิ
สุดท้าย Toyota Corolla ตัวถังแบบ 5 ประตู และแบบวากอนได้พลังงานจากแบตเตอรี Lithium-ion ส่วนตัวถังแบบ 4 ประตูได้พลังงานจากแบตเตอรี่ Nickel metal Hydride (Ni-MH)
2.เครื่องยนต์ไฮบริด ขนาด 2.0 ลิตร
หากต้องการเพิ่มประสิทธิภาพแบบไม่ต้องสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากเกินไปสามารถเลือกใช้เครื่องยนต์ไฮบริด ขนาด 2.0 ลิตร ที่มีเฉพาะใน Toyota Corolla รุ่น Hatchback และ Touring Sports โดยขุมพลังนี้จะให้กำลัง 180 แรงม้า และมีแรงบิด 190 นิวตันเมตร เมื่อเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าไปจะพัฒนากำลังขึ้นอีก 109 แรงม้า และเพิ่มแรงบิดสูงสุดถึง 202 นิวตันเมตร
ขุมพลังนี้ยังมีโหมดการขับขี่แบบ Sport และเชื่อมต่อกับเกียร์ Sequential Shiftmatic 6 สปีด ส่วนอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในรุ่น Hatchback อยู่ที่ 7.9 วินาที ส่วนรุ่น Touring Sports ที่ 8.1 วินาที ในขณะที่ความเร็วสูงสุดของทั้ง 2 รุ่นคือ 180 กม./ชม. และหากใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวในการขับขี่ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 115 กม./ม.
สำหรับ Toyota Corolla (โตโยต้า โคโรลล่า) เครื่องยนต์ไฮบริด ขนาด 2.0 ลิตรทั้ง 2 รุ่น มีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ 3.7 ลิตร/100 กม.
3.เครื่องยนต์เทอร์โบ ขนาด 1.2 ลิตร และ N/A 1.6 ลิตร
เมื่อไม่ต้องการขุมพลังไฮบริดสามารถเลือกใช้เครื่องยนต์ เทอร์โบชาร์จ ขนาด 1.2 ลิตร กำลัง 114 แรงม้า และมีแรงบิด 185 นิวตันเมตร พร้อมเกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือเกียร์ CVT ซึ่งมีเฉพาะใน Toyota Corolla ตัวถังแบบ 5 ประตูและแบบวากอน
ส่วนอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในรุ่น Hatchback ใช้เวลา 9.3 วินาที และรุ่น Touring Sports ใน 9.6 วินาที (เกียร์ธรรมดา) โดยมีความเร็วสูงสุดมากถึง 200 กม./ชม. และอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยุ่ที่ 5.2 ลิตร/100 กม.
ขุมพลังสุดท้ายของอย่างเครื่องยนต์เบนซิน N/A (Naturally Aspirated) ขนาด 1.6 ลิตร 4 สูบ จะให้กำลัง 132 แรงม้า และมีแรงบิด 159 นิวตันเมตร มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ โดยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเกียร์ธรรมดาอยู่ที่ 9.7 วิ. และมีความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. ส่วนเกียร์อัตโนมัติมีตัวเลขที่ 10.2 วิ และ 190 กม./ชม.
สำหรับอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติอยู่ที่ 5.7 และ 5.5 ลิตร/100 กม. ตามลำดับ
เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ได้ที่ Thaicarlover.com หรืออีกหนึ่งช่องทางง่ายๆ จากทางแฟนเพจ เพียงกด