ช่วงนี้พายุหนักหลายคนเจอปัญหาหนักกับสีรถ ไม่ว่าจะริ้วรอยที่เพิ่มขึ้นรวมถึงไปคราบต่าง ๆ ที่แอบมาตอนไหนก็ไม่รู้ วันนี้ลองมาดูการรักษาสีรถยนต์ในแบบคนรักรถกันสักหน่อย
การดูแลรักษาสีรถหน้าฝน
ความจริงแล้วการดูแลสีรถไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงแต่ต้องทำอย่างพิถีพิถันและหมั่นตรวจสอบเป็นประจำ โดยเฉพาะรถรุ่นใหม่บางรุ่นจะสังเกตได้ว่าสีที่มาจากโรงงานเหมือนจะมีการเคลือบและเนื้อสีบางลงไปมาก วันนี้เราลองมาดูวีรักษาสีรถกันแบบง่าย ๆ ที่ใครก็ทำได้ไม่ต้องเข้าร้านกันดีกว่า
- อย่างแรกก็คงหนีไม่พ้นการล้างรถ ซึ่งเหตุผลในการล้างรถของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน เช่นเพิ่งล้างไปเมื่อวานวันนี้เลอะ หรือจะเป็นเลอะนิดหน่อยไว้รอเลอะมาก ๆ ก่อนค่อยล้าง หรือไม่มีเวลา แต่ผมจะบอกว่าหากคุณคิดว่ารถเลอะแล้วไม่ล้างคือความคิดที่ผิด เพราคราบที่แห้งกรังฝังตัวต่าง ๆ จะคอยทำร้ายสีรถแน่ ๆ โดยเฉพาะทรายที่แห้ง เวลาเราล้างครั้งต่อไปหลังจากมันแห้งแล้ว ต้องใช้น้ำแรงดันสูงหรือลูปออก มันก็มักจะทำให้เกิดรอยเล็ก ๆ เบา ๆ โดยที่เรามองไม่เห็นตอนล้าง จะเห็นก็หลังล้างไปแล้ว ดังนั้นเลอะมากเลอะน้อยอย่างน้อยก็ควรเอาน้ำฉีดไล่คราบที่เกาะอยู่ก่อนก็จะดี
- การจอดรถ ไม่ควรจอดกลางแจ้งหลังจากตากฝนมาเพราะจะทำให้คราบน้ำที่เกาะอยู่ฝั่งตัวได้เร็วขึ้น หรือใต้ร่มไม้ที่มียาง ผล และเกสร เพราะหน้าฝนต้องมากับลมแรงที่อาจจะพัดน้ำยางหรือผลของต้นร่วงมาบนรถจนเกิดคราบที่ถึงแม้จะมียาดีก็ล้างออกได้ยาก
- ขัดเคลือบสี เป็นสิ่งที่ควรทำอย่างมากในฤดูฝนเพราะนอกจากจะเสริมชั้นป้องกันสีรถแล้วสารเคลือบบางตัวจะทำให้คราบต่าง ๆ มาเกาะได้น้อยลงเวลาเราทำความสะอาดรถครั้งต่อไปก็สามารถทำได้ง่ายไม่เปลืองแรงและเวลาอีกด้วย
- น้ำยาและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีขายกันทั่วไปทั้งในห้างและประดับยนต์ควรศึกษาอ่านฉลากให้ดีก่อนใช้ เพราะบางยี่ห้อสามารถใช้ได้ในบางพื้นผิว หรือบางยี่ห้อมีลักษณะการใช้งานที่ไม่แตกต่างออกไป รวมถึงความเข้มข้นที่หากใช้ไม่ระมัดระวังอาจเป็นการทำร้ายสีรถโดยไม่รู้ตัว
ถึงจะไม่ใช่หน้าฝนที่ตกหนักวันเว้นวันเหมือนตอนนี้การดูแลรักษาสีรถก็ควรทำสม่ำเสมอ หากเราดูแลดีสีรถก็คงความสดใหม่ได้นานเช่นกัน เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงสาระดี ๆ เกี่ยวกับการดูแลและขับขี่รถอย่างปลอดภัย การจัดแสดงรถยนต์อื่น ๆ ได้ที่ Thaicarlover ครับ