พระราชบัญญัติจราจรทางบก ฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2562 เป็นต้นไป โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถขอดูใบขับขี่ แต่ห้ามยึดอีกต่อไป และจากการยืนยันของ “กรมการขนส่งทางบก PR.DLT.News” อีกทั้งประชาขนยังสามารถแสดงใบขับขี่ดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชัน “DLT QR Licence” แทนฉบับจริงได้อีกด้วย
เดิม พรบ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 140 วรรคสอง ในการออกใบสั่งจะให้อำนาจเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่ไว้เป็นการชั่วคราว
แต่มาตรา 10 ใน พรบ.จราจรฯ ฉบับใหม่ ให้มีการยกเลิกความในมาตรา 140 ของ พรบ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งทำให้ในการออกใบสั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีอำนาจเรียกเก็บใบขับขี่อีกต่อไป
สำหรับผู้ขับขี่ต้องพกใบขับขี่อย่างใดอย่างหนึ่งใน 3 แบบอยู่กับตัวเพื่อที่จะสามารถแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อถูกเรียกตรวจ แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ฯ ไม่สามารถเรียกเก็บ หรือยืดใบขับขี่อีกต่อไป และการแสดงใบขับขี่สามารถได้ 3 แบบ ดังนี้
- แบบเดิม คือการแสดงใบขับขี่ตัวจริง
- แสดงใบขับขี่ดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชั่น DLT QR Licence (ขั้นตอนการสมัคร)
- สำเนาภาพถ่ายใบอนุญาตขับขี่ตามที่กรมขนส่งฯ (ไม่สามารถใช่ภาพถ่ายจากโทรศัทพ์ได้)
สาเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่จำเป็นต้องยึดใบขับขี่ เนื่องจากมีระบบใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ของกรมขนส่งฯ สามารถเปรียบเทียบปรับได้ โดยเจ้าหน้าที่ฯ จะตรวจสอบความถูกต้องของใบขับขี่ บันทึกข้อมูล และการกระทำผิดลงในใบสั่ง ส่วนต้นขั้วจะนำกลับไปสถานีตำรวจ
เมื่อเสียค่าปรับผู้ขับขี่จะรู้ว่าถูกตัดไปกี่แต้ม หากโดนตัดไปทั้งหมด 12 แต้ม จะถูกพักใบขับขี่ 90 วัน และภายใน 3 ปี หากถูกพักเกินกว่า 2 ครั้ง ซึ่งครั้งที่ 3 จะถูกพักใช้เป็นเวลา 1 ปี และในระหว่าง 1 ปี หากทำถูกพักเป็นครั้งที่ 4 จะถูกเพิกถอนใบขับขี่ทันที
เครดิต : กรมการขนส่งทางบก PR.DLT.News
เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ได้ที่ Thaicarlover.com หรืออีกหนึ่งช่องทางง่ายๆ จากทางแฟนเพจ เพียงกด