การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้นกับตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อรัฐบาลจีนได้ออกมายืนยันว่ากำลังทำการศึกษาถึงการยกเลิกการผลิต และจำหน่ายรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงดีเซล และเบนซิน
รัฐมนตรีช่วยกระทรวงอุตสาหกรรมของจีน กล่าวว่า “จีนกำลังวิจัยสิ่งที่เกี่ยวข้องถึงการยกเลิกการผลิต และจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้พลังงานฟอสซิล แต่ยังไม่ได้กำหนดกรอบเวลาที่จะมีผลบังคับใช้” นอกจากนี้ “มาตรการเหล่านี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่มีผลต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ของเรา”
อย่างที่กล่าวไว้แล้วจีนคือตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก หากเกิดการห้ามผลิต จำหน่ายรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงดีเซล และเบนซินในประเทศแล้ว อาจจะมีแนวโน้มที่จะเกิดความโกลาหลต่อรถเครื่องยนต์สันดาป และเมื่อปีที่ผ่านมาจีนผลิตรถยนต์ได้ถึง 28 ล้านคัน หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของรถยนต์ทั่วโลกที่ผลิตเมื่อปีก่อน
ส่วน Volvo ที่มีเจ้าของเป็นบริษัทสัญชาติจีน Geely ได้ประกาศว่านับตั้งแต่ปี 2019 รถรุ่นใหม่ทั้งหมดของบริษัทจะถูกขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า และตั้งเป้าหมายไว้ว่าภายในปี 2025 จะจำหน่ายรถพลังงานไฟฟ้าให้ได้ 1 ล้านคัน
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันของจีน เนื่องมาจากปัจจุบันแดนมังกรคือประเทศที่ใช้น้ำมันเป็นอันดับสองของโลกรองจากสหรัฐอเมริกา และคาดว่าคงเกิดช่วงเวลาที่ปั่นปวนในอุตสาหกรรมยานยนต์ในจีน และทั่วโลกเป็นแน่
ก่อนหน้านั้นประเทศในยุโรปอย่างฝรั่งเศส และอังกฤษพร้อมใจที่จะแบนรถเครื่องยนต์ดีเซล และเบนซินภายในปี 2040
นอกจากนี้เยอรมันก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้ประกาศด้วยเช่นกัน การประกาศดังกล่าวมีจุดหมายเดียวกันคือความพยายามลดการปล่อยมลพิษ และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่มีผลต่อสภาพอากาศของโลกใบนี้
เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงสาระดี ๆ เกี่ยวกับการดูแลและขับขี่รถอย่างปลอดภัย การจัดแสดงรถยนต์อื่น ๆ ได้ที่ Thaicarlover.com ครับ