เชื่อว่าปัญหาเบรคแล้วต้องเคยเกิดขึ้นกับเพื่อน ๆ มาบ้าง มีตั้งแต่เสียงดังหวี๊ดยาว ๆ เสียงครืด ๆ หรือหนักกว่านั้นคือเสียงเหมือนลากอะไรติดใต้ท้องรถมา วันนี้เลยมาเฉลยต้นตอของเสียงเหล่านั้นว่ามาจากอะไร
เบรคแล้วเสียงดังเพราะอะไร
การจะหาต้นตอก็ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่าย เพราะแต่ละเสียงจะมีต้นตอที่แตกต่างกัน ดังนั้นควรจะแยกเสียงก่อน เสียงแรก หวี๊ด !! ยาวจนกว่าจะปล่อยเบรคหรือบางทีปล่อยแล้วก็ยังดัง ถ้าเพื่อน ๆ เจอเสียงนี้ให้ลองไปดูที่จานเบรคแล้วถ้าเจอร่องที่จานก็นั้นแหละครับเสียงมาจากจุดนี้ เพราะมีเศษหินหรือทรายเข้าไปติดที่ผ้าเบรคทำให้เวลาเรากดเบรคผ้าไปกดกับจานจนทำให้เกิดเสียง วิธีแก้ไม่หลายวิธีแต่ง่ายที่สุดคงเป็นเอาน้ำฉีดไปที่ผ้าเบรคตอนเราล้างรถนั้นแหละครับ ส่วนถ้ายังไม่หายจนทนเสียงไม่ได้และถอดล้อถอดผ้าเบรคไม่เป็นแนะนำว่าให้เข้าร้านหรือศูนย์บริการเพื่อแก้ไขให้จะดีกว่า
เสียงที่สอง ครืด ๆ ดังเป็นจังหวะแถมบางครั้งมีการสั่นสะเทือนมาสู้เท้าเราอีก อาการนี้มักจะเกิดรถที่ผ้าเบรคแข็งหรือผ้าเบรคจับจานไม่เต็ม วิธีการเช็คก็เหมือนกับเสียงหวี๊ดครับแต่ต้องสังเกตุสีของจานเบรคแทน เพราะสีจะแสดงให้เห็นการจับตัวของผ้าเบรคกับจาน การแก้ไขอาจจะต้องใช้ความชำนาญหรือขเร้านเข้าศูนย์ เพราะในบางครั้งอาจจะเจียจานเนื่องจากจานองศาเพี้ยนไป หรือถ้าใครพอมีทักษะแงะผ้าเบรคออกมาได้ลองขัดจานหรือผ้าเบรคก่อนก็ได้ครับ อาการอาจจะหายหรือทุเลาลง
เสียงสุดท้าย เหมือนลากอะไรติดใต้ท้องรถมา ถ้าเกิดเสียงลักษณะนี้แน่นอนครับว่าอาการหนักเข้าขั้น ICU เลยทีเดียว เพราะต้องมีปัญหากับรถบบะเบรค เช่น คาลิปเปอร์หลวม จานหลวม น๊อตล๊อคจุดยึดต่าง ๆ ของระบบเบรคและช่วงล่างหาย หนักกว่านั้นคือเพลาล้อหรือตัวโครงสร้างที่เราเรียกว่า Chassis เกิดปัญหาอาจจะร้าวหรือหัก สำหรับใครทีเกิดเสียงแบบนี้แนะนำเข้าศูนย์หรือเข้าร้านเบรคโดยตรงด่วนที่สุดครับ
สำหรับปัญหาที่เกิดจากเสียงเบรคจนเบรคเกิดเสียงต่าง ๆ ยังมีอีกหลายปัจจัยมาก แต่อาการเบื้องต้นและส่วนมากที่พบก็จะมีลักษณะเสียงสามลักษณะนี้เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงสาระดี ๆ เกี่ยวกับการดูแลและขับขี่รถอย่างปลอดภัย การจัดแสดงรถยนต์อื่น ๆ ได้ที่ Thaicarlover ครับ