เมื่ออาทิตย์ก่อนค่ายโลตัส ได้ใช้เวที Monterey Car Week 2019 เพื่อทำการแนะนำ Lotus Evija รถพลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของค่ายสู่สายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรก และวันนี้มีอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวของรถที่กำลังจะได้ชื่อว่าทรงพลังมากที่สุดในโลก
ณ งานดังกล่าวที่จัดขึ้นที่ Pebble Beach Concours d’Elegance เป็นงานอีเวนต์ที่ดึงดูดผู้ที่หลงใหล และเหล่านักสะสมรถยนต์จากทั่วทุกมุมโลก ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจหาก Lotus จะเปิดตัวรถที่เร็ว และแพงที่สุดให้ให้เหล่าผู้คนในงานได้ชมกันเป็นกลุ่มแรก ๆ
สำหรับ Lotus Evija ที่ไปปรากฏตัวในงานถูกออกแบบมาพร้อมกับเฉดสีเงินได้รับความสนใจ และถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก เนื่องจากโลตัสไม่ได้เป็นค่ายผลิตรถยนต์ยอดนิยมในตลาดลุงแซม หรือเป็นที่ต้องการมากเท่าใดเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับค่ายอื่น ๆ ที่ผลิตรถในคลาสเดียวกัน
นอกเหนือไปจากการสร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมงานแล้ว ไฮเปอร์คาร์ที่ทรงพลังมากที่สุดในโลกยังได้รับการยกย่องจาก Jay Leno ซึ่งเป็นนักสะสมรถยนต์ชื่อดังอีกด้วย และจากข้อมูลของผู้ผลิตเผยว่าพวกเขาขาย Lotus Evija ที่จัดสรรไว้เพื่อตลาดสหรัฐอเมริกาเกือบหมดแล้ว
“นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่เราคาดหวังไว้” Phil Popham ซีอีโอของบริษัทกล่าวอีกว่า “Evija เป็นรถที่โดดเด่น และยอดเยี่ยม ในขณะนี้มีคำสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก มันทำให้เรามีความมั่นใจเป็นอย่างมากในการทำยอดขายให้ได้ตามแผนที่วางไว้”
ขุมพลังของ Lotus Evija (โลตัส เอฟไวจา) มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว ที่มอบกำลังรวมมากถึง 2,000 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 1,700 นิวตันเมตร ส่วนอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาไม่เกิน 3.0 วินาที และสามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วสูงสุด 320 กม./ชม. (200 ไมล์/ชม.) สุดท้ายพลังงานไฟฟ้าที่มาจากแบตเตอรี ลิเธียมไอออนให้ระยะการขับขี่ไกลถึง 400 กม. (250 ไมล์)
Lotus Evija จะถูกผลิตขึ้นที่โรงงาน Hethel ในประเทศอังกฤษ ซึ่งที่แห่งนี้เป็นสำนักงานใหญ่ของโลตัสมาตั้งแต่ปี 1966 โดยบริษัทจำกัดการผลิตไฮเปอร์คาร์พลังงานไฟฟ้ารุ่นนี้เพียง 130 คัน และแต่ละคันจะมีราคาเริ่มต้นที่ £1.7 ล้าน ($2.1ล้าน หรือ €1.9 ล้าน) สุดท้าย Evija ซึ่งคำที่อยู่ในภาษาฮิบรู มีความหมายว่า “การหายใจ มีชีวิต หรือการดำรงชีวิต”
อย่างที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น Lotus Evija จะเป็นรถที่มีความทรงพลังมากที่สุดในโลก ซึ่งมากกว่าไฮเปอร์คาร์รุ่นต่อไปนี้
เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ได้ที่ Thaicarlover.com หรืออีกหนึ่งช่องทางง่ายๆ จากทางแฟนเพจ เพียงกด