เป็นรถที่หลายคนจับตาดูเป็นอย่างมากสำหรับ Nissan NOTE ที่เปิดตัวและราคาในไทย โดยรถจะพร้อมจำหน่ายในเดือนมีนาคมนี้
Nissan Note In Thailand
ถึงแม้หลายคนจะบอกว่าละม้ายคล้ายคลึงรถอีกรุ่นหนึ่งของคู่แข่งแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสนใจที่มีให้ Nissan NOTE ลดลงไป ซึ่งเจ้านิสสันโน๊ตแฮทช์แบคคันใหม่นี้ยังคงเป็นรถอีโคคาร์เพราะใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 3 สูบ รหัส HR12DE ให้พละกำลัง 79 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 106 นิวตันเทชมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที
ตัวรถมาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT และระบบ D-Step Logic ที่สามารถลากรอบเข้าเรดไลน์แล้วระบบจะตัดรอบลงมาให้เหลือ 5,000 รอบ/นาที เพื่อให้การขับขี่ หรือเร่งแซงทำได้แบบลื่นไหลมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีระบบ Idling Stop และรองรับน้ำมัน E20 เปิดตัวด้วยสีตัวถังภายนอกถึง 6 ได้แก่ สีแดง Radiant Red, สีชมพู Sweet Pink, สีม่วง Plum, สีขาวมุก White Pearl, สีเงิน Brilliant Silver และสีดำ Black Star
สำหรับราคาอย่างเป็นทางการรุ่น 1.2 V CVT อยู่ที่ 568,000 บาท และรุ่น 1.2 VL CVT 640,000 บาท
สำหรับอุปกรณ์มาตราฐานของ Nissan NOTE มีดังนี้
- ไฟหน้าใช้เลนส์แบบโปเจคเตอร์
- สวิตซ์ปรับไฟหน้าสูง-ต่ำ
- ไฟท้ายแบบและไฟเบรคดวงที่สามเป็น LED
- ล้ออัลลอย 15 นิ้ว พร้อมยางขนาด 185/65 R15
- ระบบเบรค คู่หน้า ดิสก์ คู่หลัง ดรัม เชื่อมต่อกับระบบกันล้อล๊อค ABS และระบบกระจายแรงเบรค EBD รวมถึงระบบเสริมแรงเบรค BA
- พวงมาลัยไฟฟ้า EPS ให้การขับขี่เบามือและแม่นยำ
- ระบบกุญแจ Intelligent Key (ไม่มีก้านกุญแจ)
- ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง
สำหรับนิสสันโน๊ตรุ่นที่ทำตลาดในไทยนี้ยังมีระบบช่วยเสริมความปลอดภัยที่น่าสนใจอยู่ 5 ระบบด้วยกันคือ
- ระบบที่จะช่วยเตือนก่อนจะเกิดการชนทางด้านหน้า Forward Collision Warning (FCW) ที่จะมีเซนเซอร์ตรวจจับวัตถุที่อยู่ด้านหน้าไม่ว่าจะเป็นรถเล็กหรือรถใหญ่ หากใกล้เกินไปหรือมีความเสี่ยงต่อการชนสัญเสียงดังเตือนพร้อมกับไฟเตือนที่มาตรวัด
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ Intelligent Emergency Braking ทั้งยานพาหนะและบุคคล Pedestrian (FEB/PFEB) โดยระบบนี้จะทำงานร่วมกับระบบ FCW ที่จะคำนวนระยะห่างและความเร็วของวัตถุด้านหน้าด้วยกล้องหน้ารถ หากใกล้หรือมีความเสี่ยงเกินไประบบนี้จะทำการช่วยเบรคชะลอหรือหยุดรถ
- ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง Lane Departure Warning (LDW) ระบบนี้เราอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างสำหรับรถที่ขายในต่างประเทศ ความสำคัญของระบบนี้คือการช่วยเตือนหากรถออกนอกช่องทางจราจรด้วยเสียงและสัญญาณไฟ ซึ่งจะทำงานเมื่อความเร็วของรถเกิน 70 กม./ชม.
- กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา Around View Monitor (AVM) ความปลอดในหัวข้อนี้คงไม่ต้องพูดอิะไรมาก เพราะกล้องรอบคันก็เหมือนเรามีตารอบตัวทำให้มองเห็นจุดบอดต่าง ๆ ได้ โดยภาพทั้งหมดจะถูกแสดงบนหน้าจอแสดงผลที่ชุดกระจกมองหลัง
- ระบบตรวจจับวัตถุและบุคคลรอบคัน Moving Object Detection (MOD) ระบบนี้จะทำงานร่วมกับ AVM โดยจะคอยตรวจจับวัตถุต่าง ๆ ที่เคลื่อนไหวผ่านกล้องทั้งหมด โดยจะส่งสัญญาณเตือนเมื่ออยู่ในโหมด AVM หรือตอนที่เีราขับถอยหลังนั้นเอง
เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงสาระดี ๆ เกี่ยวกับการดูแลและขับขี่รถอย่างปลอดภัย การจัดแสดงรถยนต์อื่น ๆ ได้ที่ Thaicarlover.com ครับ