ความต้องการรถยนต์ Ferrari ในทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และในไตรมาสที่สองของปี 2017 ทางบริษัทได้ประกาศผลประกอบการไม่ว่าจะเป็นจำนวนการส่งมอบ และรายได้สุทธิ
สำหรับไตรมาสที่สองของปีนี้ทางบริษัทผลิตรถยนต์จากอิตาลีได้ส่งมอบรถยนต์ไปทั้งสิ้น 2,332 คัน มากกว่าไตรมาสที่สองของปี 2016 ด้วยจำนวน 118 คัน สาเหตุที่ตัวเลขเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการจำหน่าย Ferrari GTC4Lusso เครื่องยนต์ V12 ในขณะเดียวกันยังคงมีการส่งมอบรถยนต์รุ่นพิเศษอย่าง Ferrari LaFerrari Aperta ไปทั่วโลก นอกจากนี้ยังจะมี Ferrari 812 Superfast ที่จะทำให้ยอดขาย และการส่งมอบของบริษัทเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ส่วนเครื่องยนต์ V8 อย่างเช่น Ferrari California T, Ferrari GTC4Lusso T และ Ferrari 488 GTB ยังคงมีการส่งมอบไปจนถึงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ และทาง Ferrari คาดการณ์ว่าเมื่อสิ้นปี 2017 จะสามารถส่งมอบรถยนต์ให้ลูกค้าราว ๆ 8,400 คัน ซึ่งเพิ่ม 4.8% จากปี 2016
สำหรับเม็ดเงินในไตรมาสที่สองของปี 2017 ทาง Ferrari ได้เผยรายได้สุทธิอยู่ที่ 920 ล้านยูโร หรือ 1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าปี 2016 ที่ 13.5% นอกจากนี้ผลกำไรสุทธิ 97 ล้านยูโร ในไตรมาสที่สองของปี 2016 ได้เพิ่มขึ้นเป็น 136 ล้านยูโร หรือ 161 ล้านดอลลาร์ และ เมื่อถึงสิ้นปี Ferrari (เฟอร์รารี่) คาดว่าทางบริษัทจะมีผลกำไรอย่างน้อย 950 ล้านยูโร หรือ 1.12 พันล้านดอลลาร์
แม้รถยนต์ของม้าลำพองในบางรุ่นนจะผลิตน้อย และมีราคาแพง แต่กลับได้รับผลตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ยกตัวย่างเช่น Ferrari J50 และ Ferrari F12 TDF เป็นต้น และนี้อาจจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ยอดขาย และราคาหุ้นของ Ferrari เพิ่มขึ้น
เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงสาระดี ๆ เกี่ยวกับการดูแลและขับขี่รถอย่างปลอดภัย การจัดแสดงรถยนต์อื่น ๆ ได้ที่ Thaicarlover.com ครับ