เดือนเมษายน-พฤษภาคม ถือได้ว่าเป็นเดือนที่ร้อนมากที่สุดของปี ร้อนแทบจะดับแลบกันเลยทีเดียว หลายคนอาจจะมีปัญหากับการจอดรถ ที่มักไม่เหลือที่ร่มไว้ให้จอด ลองคิดดูซิว่าเรายืนกลางแดดแค่ไม่กี่นาทีเหงื่อก็ไหลออกจนน้ำในร่างกายจะหมดอยู่แล้ว แต่รถสุดที่รักของเราต้องอยุ่กลางแดดเปลี้ยงตั้งกี่ชั่วโมง นอกจากจะสงสารรถแล้วยังต้องสงสารเงินในกระเป๋าที่ต้องควักจ่ายเป็นค่าซ่อมแซมสีรถและอุปกรณ์ภายในอีกด้วย แล้วควรทำอย่างไรหล่ะ?
5 วิธี ช่วยรถเมื่อจอดกลางแดด
1. อุปกรณ์บังแดด
ถือเป็นตัวช่วยที่ดีมากทีเดียว อาจเป็นม่านกันแดดอย่างน้อยสักสองชิ้น ติดกระจกหน้า เนื่องจากไม่มีฟิล์มกันแดดหรือฟิล์มกันแดดมีเปอร์เซ็นน้อย แต่ถ้าให้ดีควรติดทุกด้านที่เป็นกระจกได้ยิ่งดี
2. ลดกระจกลง
เพื่อให้อากาศถ่ายเท ให้อากาศร้อนได้ระบายออกไปและให้อากาศเย็นเข้ามาแทนที่ การที่ปิดกระจกทุกบานทำให้อุณภูมิภายในร้อนขึ้นเรื่อยๆอุปกรณ์บางอย่างภายในรถไม่สามารถทนความร้อนได้มากมายนัก อาจทำให้เกิดการเสื่อมสภาพหรือชำรุดเร็วขึ้น ข้อแนะนำคือควรติดกันสาดเพื่อให้ดูว่าไม่ได้เปิดกระจกอยู่
3. ล้างและเคลือบสีรถเป็นประจำ
รถที่รักของเรามีสีที่ค่อนข้างบึกบึนทนต่อสภาพอากาศดีอยู่แล้ว ไม่ซีดง่ายอย่างที่เราคิดหรอก แต่การล้างและเคลือบสีอยู่เป็นประจำจะช่วยยืดอายุสีและเป็นการถนอมสีจากฝุ่นหรือคราบที่เกาะอยู่มากกว่า
4. น้ำยาเคลือบคอนโซล
หลายคนคิดว่าความร้อนจะทำลายเพียงภายนอกของรถซึ่งโดนแดดเต็มๆ แต่ความจริงแล้วภายในอันตรายและเสี่ยงต่อความเสียหายมากกว่า การทาน้ำยาเคลือบเป็นการช่วยยืดอายุและป้องกันความร้อนได้อีกด้วย
5. ผ้าคลุมรถ
วิธีนี้ลำบากนิดหนึ่ง แต่ได้ผลมากทีเดียว ผ้าคลุมรถที่ดีไม่ใช่ผ้าที่แถมมากับตัวรถ(กันความร้อนหรือเก็บความร้อนเนี้ย !!) ควรสั่งตัดให้พอดีกับตัวรถและควรให้มีสีที่สะท้อนแสงแดดได้ดี ช่วยป้องกันแดดได้ดีมากทีเดียว
ข้อแนะนำ
ข้อแนะนำอย่างหนึ่งที่สำคัญคือ ห้ามยกที่ปัดน้ำฝนขึ้นค้างไว้ เพราะจะทำให้สปริงพัง หลายคนชอบคิดว่าการยกที่ปัดน้ำฝนขึ้นจะทำให้ใช้งานได้นานขึ้น ซึ่งก้อเป็นความจริงแต่ที่จริงยิ่งกว่าคือสปริงระหว่างที่ปัดน้ำฝนกับตัวรถจะพังเอาง่ายๆ และค่าซ่อมแพงกว่าด้วย
สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงสาระดีๆเกี่ยวกับการดูแลและขับขี่รถอย่างปลอดภัย การจัดแสดงรถยนต์อื่นๆ ได้ที่ Thaicarlover.com ครับ