จากตอนที่แล้วเราได้นำเรื่องราว Chevrolet Camaro (เชฟโรเลต คามาโร) วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 กันยายน 1966 ได้รับการยอมรับ และประสบความสำเร็จตั้งแต่ปีแรกด้วยยอดขายเกือบ 221,000 คัน และกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอเมริกัน
50 ปี ที่ผ่านมา Chevrolet Camaro (เชฟโรเลต คามาโร) พัฒนาอย่างต่อเนื่องถึง 6 เจนเนอเรชั่น แต่ละรุ่นมีความโดดเด่นในการออกแบบแตกต่างกันไปตามยุคสมัย และที่สำคัญเทคโนโลยีมีส่วนทำให้การขับขี่มีความเร้าใจอย่างยิ่ง
เจนเนอเรชั่นที่ 4 ปี 1993-2002
Chevrolet Camaro (เชฟโรเลต คามาโร) เจนเนอเรชั่นที่ 4 ได้ยกระดับสมรรถนะมาอย่างต่อเนื่องจากรุ่นก่อน มีเครื่องยนต์ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น และการปรับปรุงแชสซีใหม่บนพื้นฐานของเจนฯ ที่ 3 ออกแบบตัวถังให้มีสัดส่วนที่โดดเด่นยิ่งขึ้น รวมถึงกระจกบังลมลาดเอียงทำให้ตัวรถมีความปราดเปรียว
ด้านหน้าของรุ่นที่ 4 ได้ปรับโฉมใหม่ในปี 1998 พร้อมกับการเปิดตัวรุ่น LS1 V-8 เพื่อรำลึกถึงยุครุ่งเรืองของรถมัสเซิลคาร์
เจนเนอเรชั่นที่ 5 ปี 2010-2015
Chevrolet Camaro (เชฟโรเลต คามาโร) เจนเนอเรชั่นที่ 5 ขาดความต่อเนื่องของการเปิดตัวต่อจากเจนฯ ที่ 4 ถึง 7 ปี (เผยโฉมปี 2009 ในฐานะรุ่นปี 2010) อาจจะดูไม่นานกับระยะเวลาเพียง 7 ปี แต่เหมือนชั่วกัปชั่วกัลป์สำหรับโลกยานยนต์
เชฟโรเลตคาดหมายว่าคามาโรรุ่นใหม่จะต้องสืบสานตำนานความสำเร็จอันยาวนาน ซึ่งเป็นจริงอย่างที่หวัง
เจนฯ ที่ 5 มียอดจำหน่ายกว่า 500,000 คัน แซงหน้ารถสปอร์ตคู่แข่ง 5 ปี ติดต่อกันพร้อมกับต่อยอดเป็นรถที่เน้นการขับขี่ในสนามอย่างรุ่น 1LE, Z/28, ZL1
เจนเนอเรชั่นที่ 6 ปี 2016 – ปัจจุบัน
Chevrolet Camaro (เชฟโรเลต คามาโร) เจนเนอเรชั่นที่ 6 มีสมรรถนะ เทคโนโลยี เหนือชั้นที่สุด พร้อมทั้งความประณีตหรูหราซึ่งอัดแน่นอยู่ในโครงสร้างที่มีน้ำหนักเบาลง แต่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ทำให้ได้รับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปีจากมอเตอร์เทรนด์ 2016 (Motor Trend Car of the Year 2016)
ในปี 2017 คาดว่าจะมีการเปิดตัวรุ่น 1LE สำหรับสนามแข่ง และ ZL1 ซึ่งขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง V8 6.2 ลิตร ซูเปอร์ชาร์จ 640 แรงม้า และส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดรุ่นใหม่