ยกเลิกการแจ้งเตือน

คุณต้องการยกเลิกการแจ้งเตือนข่าวสารเมื่อมีการอัพเดตใช่หรือไม่?

Advertise with Us

ติดต่อเพื่อลงโฆษณากับเราที่นี่!

รถยนต์ ข่าวรถยนต์ รถใหม่ ราคารถยนต์ พริตตี้ รถคลาสสิค รถแต่ง
background

7 ทศวรรษ 7 รุ่นเด่นของรถยนต์เฟอร์รารี่ในแต่ละยุค (ตอนที่ 1)

16 ก.ย. 2560 N/A views

นับตั้งแต่ม้าลำพองคันแรกของค่ายอย่าง Ferrari 125 S ถูกเปิดตัวมาในปี 1947 นับจนถึงตอนนี้ทางบริษัทได้ฉลองครบรอบ 70 ปีไปแล้ว และในแต่ละปีทางค่ายเฟอร์รารี่ต่างสร้างสรรค์ผลงานออกมาอย่างมากมาย แต่จะมีบางรุ่นที่มีความพิเศษ และโดนเด่นกว่าเพื่อน ไม่ว่าจะในด้านการออกแบบ ด้านเทคโนโลยี ดังนั้นขอยกตัวอย่างรุ่นที่โดดเด่นในแต่ละทศวรรษ ว่าจะมีรุ่นไหนที่โดดเด่นบ้าง

Ferrari 250 GT California Spider_resize

Ferrari 250 GT California Spider

ทศวรรษ 1950 : Ferrari 250 GT California Spider

เมื่อก้าวเข้าสู่ยุค 50 ได้ 3 ปี ค่ายม้าลำพองได้ผลิต Ferrari 250 มาพร้อมกับความสำเร็จในการแข่งขัน Sport Car Racing, F1 และยังเป็นค่ายรถยนต์ที่ผลิตรถใช้บนถนนที่ผู้คนต้องการมากที่สุดอีกด้วย

จุดเด่นของรุ่นนี้ (Ferrari 250) คือสายการผลิตที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งครอบคลุมไปถึงตัวถังในรูปแบบต่าง ๆ และยังมีการเปลี่ยนแปลงทางเทคนิคในแต่ละรุ่น แม้ผู้ที่ชื่นชอบเฟอร์รารี่บางคนจะไม่เห็นด้วยก็ตาม ด้วยสายการผลิตที่มีหลายรุ่นจึงยากที่จะเลือกตัวแทน Ferrari 250 ที่ยิ่งใหญ่ในยุค 50 แต่หากจะให้เลือกขอจิ้มไปที่ Ferrari 250 GT California Spider

Ferrari 250 GT California Spider รุ่นฐานล้อยาว (LWB) เปิดตัวมาในปี 1958 ออกแบบประตู ฝากระโปรงหน้า และหลัง ด้วยวัสดุอะลูมิเนียม ระยะฐานล้อยาว 2,600 มม. เพิ่มจากรุ่นมาตรฐาน 200 มม. และต่ำกว่า 30 มม.

ส่วนพลังขับเคลื่อนเป็นเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร V12 ให้กำลัง 240 แรงม้า และได้ Pininfarina มาออกแบบ ส่วนตัวถังออกแบบโดย Scaglietti สุดท้ายเปลี่ยนดรัมเบรกมาใช้ดิสก์เบรก ผลิตมาด้วยจำนวนเพียง 106 คันเท่านั้น ก่อนที่รุ่นฐานล้อสั้น (SWB) จะถูกผลิตออกมาแทนที่ในปี 1690 และหนึ่งในรุ่น LWB เคยถูกประมูลไปด้วยมูลค่าถึง $4.9 ล้าน

(ถ้ายุค 40 คงต้องมอบให้ Ferrari 125 S ที่ผลิตเพื่อการแข่งขันเพียง 2 คัน )

Ferrari 365 GTB4 Daytona 1967

Ferrari 365 GTB4 Daytona

ทศวรรษ 1960 : Ferrari 365 GTB/4 Daytona

รถยนต์ของค่ายม้าลำพองที่มีชื่อเสียง และมีคุณค่ามากที่สุดในยุค 60 คงไม่พ้น Ferrari 250 GTO แต่สปอร์ตคาร์รุ่นนี้ไปซ้ำสายการผลิตของ Ferrari 250 ดังนั้นจึงขอเลือกรุ่นที่ได้ผลิตในช่วงปลายยุค 60 อย่าง Ferrari 365 GTB/4 หรือรู้จักกันในชื่อ Ferrari Daytona

Ferrari 365 GTB/4 (Daytona) เปิดตัวครั้งแรกที่งานแสดงรถยนต์ที่ปารีสในปี 1968 เพื่อเฉลิมชัยชนะในรายการ Daytona 24 Hours 1967 ของ Ferrari 330 P3/4 ที่เข้าเส้นชัยในลำดับที่ 1 2 3 ได้ทั้ง 3 คัน และได้นำชื่อของสนามดังกล่าวมาตั้งชื่ออย่างไม่เป็นทางการ (ชื่ออย่างเป็นทางการคือ Ferrari 365 GTB/4) ซึ่งได้ Leonardo Fioravanti จาก Pininfarina มาออกแบบได้อย่างสวยงาม และถือว่ามีความก้าวหน้ามากในยุคนั้น

พลังขับเคลื่อน Ferrari 365 GTB/4 Daytona มาจากเครื่องยนต์วางหน้าขนาด 4.4 ลิตร V12 คาร์บูเรเตอร์ Weber กำลัง 352 แรงม้า เชื่อมต่อกับเกียร์ธรรมดา 5 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหน้า

จำนวนการผลิต Ferrari Daytona ทั้งหมดที่เป็นที่ยอมรับของนักประวัติศาสตร์เฟอร์รารี่คือ 1,406 คันแบ่งออกเป็น โดยแบ่งเป็น Ferrari 365 GTB/4 สไตล์คูเป้ทั้งหมด 1,284 คัน (พวงมาลัยขวา 156 คัน สำหรับตลาดอังกฤษ) และสไตล์ Spyder 122 คัน (พวงมาลัยขวา 7 คัน) และมี 15 คันที่ใช้แข่งขันในรายการต่าง ๆ ด้วยการปรับแต่งตังถังให้มีน้ำหนักเบา ปรับแต่งเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น

Ferrari 512 BB 1976

Ferrari 512 BB

ทศวรรษ 1970 : Ferrari 512 BB

ก้าวที่สำคัญ !!! Enzo Ferrari ได้ยอมรับในสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และได้ทำให้เครื่องยนต์วางกลางมันกลายเป็นจริงขึ้น (ก่อนหน้านั้นมีเฉพาะเครื่องยนต์วางหน้าเท่านั้น) หลังจากวิศวกรใช้เวลาหลายปีในการโน้มน้าวให้เขาใช้เครื่องยนต์ชนิดนี้ อีกทั้งยังมีแรงกดดันจาก Lamborghini ที่ได้กลายมาเป็นคู่แข่งพร้อมกับชื่อเสียงที่กำลังพุ่งทะยานขึ้นมาเรื่อย ๆ ด้วยการให้กำเนิด Lamborghini Miura (1966-1973) เครื่องยนต์วางกลาง

แล้วจะทำอย่างไร หนทางเดียวที่เป็นไปได้คือนำการออกแบบของรถสูตรหนึ่งมาเป็นต้นแบบเพื่อผลิตรถที่ใช้วิ่งบนถนนธรรมดา จึงทำให้ Ferrari 365 BB ปรากฏตัวออกมาในปี 1971 ผลิตจริงในปี 1973 ก่อนที่ Ferrari 512 BB จะเผยโฉมออกมาในปี 1976

Ferrari BB (Berlinetta Boxer) ผลิตระหว่างปี 1973-1984 เป็นผลงานชิ้นเอกของ Leonardo Fioravanti จากสำนักออกแบบ Pininfarina ที่ต้องมาสู้กับ Lamborghini Countach (1974-1990)

นี่คือรถวิ่งถนนธรรมดารุ่นแรกของเฟอร์รารี่ที่ใช้เครื่องยนต์วางกลาง Flat-12 ซึ่งเครื่องยนต์ชนิดนี้ถูกใช้ในรถสูตรหนึ่ง นอกจากนี้หมายเลข 521 ของ Ferrari 512 BB มาจากการใช้เครื่องยนต์ 5 ลิตร 12 สูบ ให้กำลัง 360 แรงม้า และนี่คือรถยนต์เฟอร์รารี่ที่มีอิทธิพลต่อม้าลำพองรุ่นหลังๆ แม้เวลาจะผ่านไปแล้วถึง 40 ปี

Ferrari 365 GTB-4 Daytona 1972

Ferrari 365 GTB4 Daytona สไตล์ Spyder

อ่าน “7 ทศวรรษ 7 รุ่นเด่นของรถยนต์เฟอร์รารี่ในแต่ละยุค (ตอนจบ)” คลิก