เมื่องาน Motor Expo 2017 ที่ผ่านมามีลูกค้าผู้ใช้รถ Mazda CX-5 ได้ไปร้องเรียนมาสด้าเกี่ยวกับ ปัญหาน้ำดันและน้ำมันเชื้อเพลิงไหลไปปะปนกับน้ำมันเครื่อง ทำให้เครื่องยนต์เสียหาย พร้อมกับให้มาสด้าเพิ่มระยะรับประกันเป็นระยะเวลา 10 ปี หรือระยะทาง 500,000 กิโลเมตร แต่ทั้ง 2 ฝั่งตกลงกันไม่ได้ ปัญหาการฟ้องร้องจึงตามมา
ปัญหานี้เกิดเสียงแตกไปเป็นสองฝั่งสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่ง มองว่าหากมาสด้าฟ้องร้องจริง ผลกระทบจะตกเป็นของบริษัท สูญเสียทั้งชื่อเสียง และภาพลักษณ์ อาจถึงขั้นคนไม่กล้า หรือไม่ซื้อรถยนต์เลย ส่วนอีกฝ่ายมองว่า ปัญหาเกิดขึ้นจริง ๆ หรือไม่ หรืออาจจะเป็นผลจากการแข่งขันกันทางตลาดที่มีอยู่สูง !!!
โดยผู้ถูกมาสด้าฟ้องร้องมี 2 คน และทางบริษัทเรียกร้องค่าความเสียหายถึง 95 ล้านบาท พร้อมทั้งออกมาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวเป็นประเด็น ๆ ดังนี้
- การฟ้องร้องของมาสด้านั้นเพื่อให้ลูกค้าที่ถูกฟ้องหยุดการกระทำดังกล่าวที่ส่งผลกระทบต่อลูกค้าคนอื่น โดยลูกค้ายืนข้อเสนอที่ไม่สามารถเป็นไปได้ คือ ให้มาสด้าเพิ่มระยะรับประกันเป็นเวลา 10 ปี หรือระยะทาง 500,000 กิโลเมตร
- แม้ทางมาสด้าได้เจราจา และแก้ไขปัญหาไปเรียบร้อย พร้อมทั้งกับยื่นข้อเสนอการรับประกันที่บริษัทให้ได้มากที่สุดที่ระยะเวลา 6 ปี หรือระยะทาง 180,000 กิโลเมตร แต่ลูกค้าไม่ยอมรับ
- ส่วนจำนวนเงินที่มาสด้าได้ฟ้องร้องไปนั้น เป็นการประเมินจากมูลค่าความเสียหายการเสียโอกาสที่จะขายรถ แต่ทางมาสด้ายืนยันว่าเรื่องเงินที่จะเรียกแก่ลูกค้านั้นไม่ใช่ประเด็นที่สำคัญ “เป็นเพียงเงื่อนไขตามกฎหมายของไทยที่ต้องมีมูลหนี้ในการฟ้องร้องดำเนินคดี”
เมื่อเป็นเช่นนั้นการขึ้นโรงขึ้นศาลจบลงหากลูกค้าหยุดเรียกร้องข้อเสนอที่ไม่มีทางเป็นไปได้ ใช่หรือไม่ และผลกระทบที่จะตามมาในระยะยาวจะเป็นอย่างไรนั้นคงต้องรอดูกันยาว ๆ เพราะในอดีตเคยเกิดกรณีลูกค้าของค่ายรถยนต์อเมริกัน ได้ออกมาเรียกร้องให้บริษัทรับผิดชอบกับปัญหา ความเสียหายที่เกิดขึ้นในรถ
ทางออกในปัญหาของทั้งสองฝั่งจะจบลงอย่างไร วันที่ 19 มีนาคม 2561 คงจะได้ทราบกัน แต่ก็อีกนั่นแหล่ะ ทุกสิ่งอย่างในโลกย่อมไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบไปหมด มันอยู่ที่ว่าจะจัดการ แก้ปัญหา หรืออยู่กับมันได้อย่างไร
เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงสาระดี ๆ เกี่ยวกับการดูแลและขับขี่รถอย่างปลอดภัย การจัดแสดงรถยนต์อื่น ๆ ได้ที่ Thaicarlover.com ครับ