มาจริงแล้วจ้าหลังจากที่เคยเห็นโมเดล Aston Martin Valhalla ไปในปี 2019 จนมาถึงปี 2021 ทางแอสตัน มาร์ติน ก็ได้ฤกษ์ปล่อยภาพจริงรถซูเปอร์คาร์รุ่นนี้กันสักที โดยเป็นรถยนต์ PHEV (Plug-in Hybrid) ที่บอกไว้ว่ามีขุมพลังแรงสูงสุดถึง 937 แรงม้ากันเลยทีเดียว
ภายนอก Aston Martin Valhalla 2022
โครงสร้างของ Aston Martin Valhalla 2022 ทำมาจากวัสดุคาร์บอนที่มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ ไฟหน้าแบบ Full LED Matrix พร้อมระบบไฟสูงอัตโนมัติที่สามารถหักเหตามสภาพจราจรเบื้องหน้า ช่วงตัวล้อเสริมด้วยยาง Michelin ขนาด 20 นิ้วด้านหน้า และขนาด 21 นิ้วด้านหลังที่สั่งทำขึ้นเป็นพิเศษสำหรับรถรุ่นนี้โดยเฉพาะ
ภายใน Aston Martin Valhalla 2022
ปัจจุบันยังไม่มีภาพภายในห้องโดยสารออกมา แต่แอสตันมาร์ตินระบุว่าตำแหน่งผู้ขับขี่ถูกออกแบบให้มีท่าทางการนั่งคล้ายกับรถฟอร์มูล่าวัน พร้อมด้วยพวงมาลัยแบบไฟฟ้าที่ให้ความแม่นยำในการขับขี่สูง
และแผงควบคุมต่างๆ ที่ถูกจัดวางเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน มาพร้อมระบบ Aston Martin HMI เวอร์ชันล่าสุด ที่มีหน้าจอวางกลางแบบสัมผัส รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto ได้ อีกทั้งยังมีระบบปรับอากาศแบบ 2 โซนมาให้อีกด้วย
ระบบความปลอดภัย Aston Martin Valhalla 2022
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติแบบ Carbon Ceramic Matrix เพื่อหยุดรถได้อย่างทันท่วงที ขณะเกิดเหตุ
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า
- ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติตามคันหน้า
- ระบบเตือนมุมอับสายตา เป็นต้น
เครื่องยนต์ Aston Martin Valhalla 2022
Aston Martin Valhalla มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 4.0 ลิตร Twin-Turbo V8 ผลิตพลังได้สูงสุด 740 แรงม้า แต่เสิรมพลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 201 แรงม้าเข้าไปเพิ่ม ทำให้ผสมผสานกำลังออกได้มากถึง 937 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,000 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ Dual-Clutch 8 สปีด สร้างอัตราเร่ง 0-100 ได้ใน 2.5 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 350 กม./ชม.
และ Aston Martin Valhalla ได้ลองใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อวิ่งในโหมด EV ได้ระยะทางสูงสุด 15 กิโลเมตร แต่จะขับเคลื่อนที่ล้อหน้าเท่านั้น ทำความเร็วได้สูงสุด 129 กม./ชม. อีกทั้งชุดเกียร์ยังมีความพิเศษอยู่ที่การใช้ระบบถอยหลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า หรือ e-reverse ส่งผลให้ชุดเกียร์มีน้ำหนักเบาลง เสริมด้วยระบบลิมิเต็ดสลิปแบบไฟฟ้า (E-Diff) เพื่อเพิ่มการยึดเกาะถนนและประสิทธิภาพในการเข้าโค้ง ส่วนขนาดของแบตเตอรี่นั้น ยังไม่มีการเปิดเผยออกมาแต่อย่างใด
ตัวรถพร้อมส่งมอบให้ลูกค้าได้ในปี 2023 ส่วนราคานั้น ยังไม่มีการเปิดเผยออกมาแต่อย่างใด แต่ใครชอบและพร้อมด้วยกำลังทรัพย์บอกเลยคันนี้เป็นอีกคันที่ไม่ควรพลาด!
ที่มา : Astonmartin
เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ได้ที่ Thaicarlover.com หรืออีกหนึ่งช่องทางง่ายๆ จากทางแฟนเพจ เพียงกด