และแล้ว Bugatti ก็สามารถทำลายกำแพงที่ค่ายรถยนต์หลาย ๆ เจ้าต่างใฝ่ฝันหา ส่วนกำแพงนั้นจะเป็นอะไร และทำไมค่ายอื่น ๆ ยังไม่สามารถก้าวข้ามสิ่งดังกล่าวได้ เราตามไปดูกันครับ
นี่คือการยืนยันอย่างเป็นทางการ เมื่อบูกัตติ สามารถทำลายกำแพงความเร็วสูงสุด 300 ไมล์./ชม. (482 กม./ชม.) ด้วย Bugatti Chiron เวอร์ชั่นต้นแบบ ส่วนสถานที่ในการสร้างสถิติคือสนาม Ehra-Lessien ของโฟล์กสวาเกน และได้นักแข่งชื่อดังอย่าง Andy Wallace มานั่งอยู่หลังพวงมาลัย แม้ว่าในครั้งหนึ่งเขาเคยบอกว่าไฮเปอร์คาร์รุ่นนี้ไม่สามารถไปถึงตัวเลขดังกล่าว แต่ครั้งนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว
การสร้างสถิติใหม่ของโลกเกิดขึ้นในวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา เมื่อสถาบันรับรองความปลอดภัยของประเทศเยอรมัน (TUV Certification) ได้รับรองว่า Bugatti Chiron สามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดที่ 304.773 ไมล์/ชม. (490.484 กม./ชม.)
ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ผู้ผลิตชาวฝรั่งเศสได้เก็บงำความลับในการทำงานกับ Michelin (ผลิตยาง) และ Dallara (ผลิตแชสซี) เพื่อให้ Bugatti Chiron เวอร์ชั่นใหม่นี้สามารถวิ่งทะลุกำแพงความเร็ว 300 ไมล์/ชม. และด้วยตัวเลขดังกล่าวทำให้ไฮเปอร์คาร์รุ่นนี้เอาชนะ Koenigsegg Agera RS ที่ทำความเร็วไว้ที่ 277.9 ไมล์/ชม. (447.24 กม./ชม.) ไปเมื่อปี 2017
Bugatti Chiron ที่เป็นเจ้าของสถิติครั้งนี้มีความยาวกว่ารุ่นมาตรฐาน 25 ซม. (9.84 นิ้ว) ซึ่งส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นมาจากด้านท้ายที่ยาวขึ้นไม่ว่าจะเป็นในส่วนของปีกหลัง Air Brake ที่ช่วยลดระยะการเบรก ท่อไอเสียแบบ 4 ท่อ Diffuser ขนาดใหญ่ เป็นต้น
“ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือผลรวมของสิ่งต่าง ๆ ที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ แอร์โรไดนามิค เครื่องยนต์ หรือแม้แต่ยางรถ มันเป็นการรวมทุกสิ่งอย่าง และทำงานอยู่ในรถคันเดียว” Frank Heyl หัวหน้านักออกแบบภายนอกของบริษัทกล่าว
แน่นอนว่าเครื่องยนต์ Quad-turbo ขนาด 8 ลิตร W16 ที่ให้กำลัง 1,500 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 1,600 นิวตันเมตร จะต้องผ่านการอัพเกรด และบูกัตติอธิบายว่า Bugatti Chiron ที่สร้างสถิติใหม่คันนี้ว่าเป็น “รุ่นต้นแบบที่ใกล้เคียงกับรุ่นผลิตจริง” ซึ่งนั่นอาจหมายถึงเวอร์ชั่นท้ายยาว (Long-tail) ที่คาดว่าน่าจะเป็นรุ่น Super Sport ที่มีข่าวลือว่าจะถูกเปิดตัวในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า จะใช่หรือไม่ต้องคอยติดตามกันต่อไปนะครับ
เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ได้ที่ Thaicarlover.com หรืออีกหนึ่งช่องทางง่ายๆ จากทางแฟนเพจ เพียงกด