BYD Shark รถยนต์ปิคอัพปลั๊กอินไฮบริด รุ่นใหม่ล่าสุดจากแดนมังกร ประเดิมเปิดตัวรถกระบะรุ่นแรกของค่ายในประเทศเม็กซิโก พร้อมชนคู่แข่งที่ยึดครองตลาดอยู่ในปัจจุบันอย่าง Chevrolet Colorado และ Ford Ranger โดยเลือกใช้ขุมพลังเบนซิน พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้า Plug-in Hybrid ตอบโจทย์ผู้ใช้งานในกลุ่มกระบะมากขึ้น
ภายนอก BYD Shark

ภายนอกรูปลักษณ์ดูบึกบึนตามสไตล์รถยนต์ปิคอัพ มาพร้อมกับไฟหน้าและไฟท้ายทรงเหลี่ยมที่ดูคล้ายกับ Ford Ranger Raptor อย่างกับออกจากโรงงานเดียวกัน รวมถึงโชว์ความเด่นของโลโก้ BYD ได้อย่างดี ราวหลังคาและ Sport Bar ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงา และใช้วัสดุสีเงินในการตกแต่งบริเวณแผ่นกันกระแทกใต้ท้อง ในส่วนของล้ออัลลอยมีขนาด 18 นิ้ว
มิติตัวถังรถ มีดังนี้
- ความยาว 5,457 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,971 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,925 มิลลิเมตร
เปรียบเทียบกับกระบะ 1-ton Pick-up (ยาว x กว้าง x สูง)
- BYD Shark : 5,457 x 1,971 x 1,925 มิลลิเมตร
- Ford Ranger : 5,370 x 1,918 x 1,884 มิลลิเมตร
ภายใน BYD Shark

ภายในมาพร้อมกับหน้าจอกลางขนาดใหญ่จุใจถึง 12.8 นิ้ว ที่สามารถหมุนได้ เช่นเดียวกับรถรุ่นอื่นๆ ของค่าย ทำงานร่วมกันกับหน้าจอมาตรวัดผู้ขับขี่ขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมด้วยการเชื่อมต่อ Android Auto และ Apple CarPlay แบบไร้สาย พร้อมด้วยผู้ช่วยส่วนตัวที่สั่งงานด้วยเสียง โดดเด่นด้วยฟังก์ชั่นร้องคาราโอเกะ ที่สามารถเลือกใช้ไมโครโฟนแบบไร้สายได้อย่างสะดวกสบาย

นอกจากนี้ยังมีแท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สายที่จ่ายไฟฟ้าแรงสูงด้วยกำลังสูงสุด 50W พร้อมด้วยหน้าจอ head-up display ใหญ่จุใจถึง 12 นิ้ว พร้อมด้วยกุญแจแบบ Digital ที่สามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชั่นที่สั่งงานตัวรถได้หลายฟังก์ชั่น

ขุมพลังการขับเคลื่อน

พละกำลังมาจากเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ ที่ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า สามารถผลิตกำลัง 430 แรงม้า มีความสามารถในการลากจูงได้ถึง 5,512 ปอนด์ หรือประมาณ 2,500 กิโลกรัม บรรทุกได้สูงสุด 1,841 ปอนด์ หรือประมาณ 835 กิโลกรัม
ทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลาประมาณ 5.7 วินาที ซึ่งก็ถือว่าน่าประทับใจมากเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับขนาดของตัวถัง ทำเวลาเทียบเท่ากับ BMW iX2 (เมื่อ iX2 ใช้การออกตัวด้วยระบบ Launch Control)

BYD Shark รองรับการชาร์จแบบ DC หรือ Fast Charge ด้วยพอร์ต CCS1 (เป็นมาตรฐานการชาร์จ DC สำหรับอเมริกาเหนือ) สามารถจ่ายกระแสไฟได้สูงสุด 500 แอมป์ และกระแสไฟ DC 1,000 โวลต์ ให้กำลังไฟฟ้าสูงสุด 360 กิโลวัตต์ เป็นระบบการชาร์จแบบรวมโดยใช้โปรโตคอลการสื่อสารเดียวกันกับขั้วต่อ SAE J1772 Type 1 ทำให้สามารถชาร์จ AC และ DCได้ใน 1 พอร์ต แทนที่จะเป็น 2 พอร์ตแยกกัน ซึ่งสามารถชาร์จไฟจาก 30-80% ได้ภายในเวลา 20 นาที

ระบบความปลอดภัย BYD Shark

- ทางด้านระบบความปลอดภัยมีให้แบบจัดเต็มไม่ว่าจะเป็น
- ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้ Adaptive Cruise Control
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า / หลัง Forward / Rear Collision Warning
- ระบบเตือนการชนขณะถอยรถ Rear Cross Traffic Collision Warning
- ระบบเตือนรถออกนอกเลน Lane Departure Warning
- ระบบช่วยเปลี่ยนเลนกระทันหัน Emergency Lane Change Assist
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน Automatic Emergency Braking
- กล้องมองรอบคันที่เปลี่ยนมุมมองด้านใต้ท้องรถได้อีกด้วย
การจัดจำหน่าย BYD Shark

BYD Shark วางแผนจะวางจำหน่ายในประเทศ Maxico ในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อจากนี้ ซึ่งจะมีทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่ GL และ GS โดยที่ทั้ง 2 รุ่น มีระบบส่งกำลังเหมือนกัน มาพร้อมกับราคาเริ่มต้นประมาณ 53,938 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,959,028 บาท ตามอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน ในส่วนของประเทศไทยก็น่าจะตามมาเร็วๆ นี้แน่นอน