ในรายการแข่งรถที่โด่งดังอย่าง Indy 500 หรือ Indianapolis ที่จัดขึ้นใน อินเดียนาโพลิส มอเตอร์สปีด ทาง เชฟโรเลต ได้รับเกียรติทำหน้าที่ “รถนำ” หรือ Pace Car อีกครั้ง จึงจับเอาตัวแรงอย่างกระเบนพันธุ์โหดรุ่นที่ 7 ของสายพันธุ์ มาแปลงร่างเป็น ( Chevrolet Corvette Stingray Indy 500 Pace Car 2014 )
รูปลักษณ์ภายนอก Chevrolet Corvette Stingray Indy 500 Pace Car 2014
ตัวรถของ เชฟโรเลต คอร์เวทท์ สติงเรย์ อินดี้ 500 พีชคาร์ 2014 มาในแบบมาตรฐานโรงงาน ทั้งฝากระโปรงหน้าและหลังคาที่ทำมาจากคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา ชิ้นส่วนประตูและแก้มหน้า-หลังเป็นวัสดุ Composite ส่วนใต้ท้องรถปิดด้วย Carbon-Nano Composite ตั้งแต่หัวจรดท้าย เฟรมอะลูมิเนียมทำให้สามารถกระจายน้ำหนักลงสู่พื้นหน้า-หลัง ตกแต่งด้วยสติ๊กเกอร์ที่บ่งบอกถึงความเป็น Pace Car ( ภาพที่นำมาเป็นแบบที่ยังไม่ติดอุปกรณ์ )
เครื่องยนต์ เชฟโรเลต คอร์เวทท์ สติงเรย์ อินดี้ 500 พีชคาร์ 2014 เป็นขุมพลัง All-New รหัส LT 1 ความจุ 6.2 ลิตร ให้กำลัง 450 แรงม้า แรงบิด 610 นิวตัน-เมตรมีระบบวาล์วแปรผันและระบบจัดการเชื้อเพลิง Active Fuel Management หัวฉีดแบบ Direct Injection ปรับปรุงระบบควบคุมการทำงาน อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ต่ำกว่า 4 นาที ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์ธรรมดาอัตราทดชิด 7 สปีด ติดตั้งระบบ Active Rev Matching ที่ช่วยควบคุมรอบเครื่องยนต์ให้มีความสมดุลและสัมพันธ์กับความเร็ว
หน้าที่หลัก เชฟโรเลต คอร์เวทท์ สติงเรย์ อินดี้ 500 พีชคาร์ 2014
– สำรวจความปลอดภัย และความพร้อมสนาม
– บอกตำแหน่งจุดเข้า ออกของ Track
– บอกทิศทางการวิ่ง ภายใน Track
– ควบคุมความเร็วการขับขี่
– ควบคุมระยะของผู้นำ
– ป้องกัน และปิดท้ายรถคันสุดท้าย
– แจ้งเตือนการเกิดอุบัติเหตุ
– ระงับ หรือยุติการแข่งขัน และใช้สนาม
– แจ้งผู้เข้าแข่งขัน และใชสนามเข้า Pit Stop
– ใช้เคลียสนามระหว่างเปลี่ยนรอบการแข่งขัน
ข้อควรปฏิบัติเมื่อเจอรถ Safety Car
– ห้ามแซง และใช้ความเร็วเกินรถ Safety Car
– ให้ขับรถทิศทางเดียวกับ Safety Car เท่านั้น
– ระหว่างแข่งขัน หรือใช้สนาม หากพบรถ Safety Car เคลื่อนที่อยู่ด้านหน้า ให้ผู้ขับขี่ชะลอความเร็ว และรักษาลำดับตำแหน่ง Position Rank นั้นไว้ ห้ามแซงรถ Safety Car หรือแซงเปลี่ยนตำแหน่งกันเอง จนกว่า รถ Safety Car จะหลบพ้นจากทาง
– ระหว่างแข่งขัน หรือใช้สนาม หากพบรถ Safety Car เคลื่อนที่มาจากทางด้านหลัง พร้อมใช้สัญญาณเสียง ให้ชะลอความเร็วพร้อมชิดด้านนอกของ Track และปฏิบัติตามคำสั่งเสียงประกาศ
– กรณีฉุกเฉิน หรือเกิดอุบัติเหตุ หากรถ Safety Car ขับย้อนมาทางเราให้จอดออกด้านนอกของ Track เสมอ
– กรณีฉุกเฉิน หรือเกิดอุบัติเหตุ หากพบรถ Safety Car จอดขวาง Track อยู่ ผู้ขับขี่จะต้องจอดเข้าด้านนอกของ Track ทันที ซึ่งเหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าสังเกตุสัญญาณธง และปฏิบัติตามคำสั่งของ Safety Car อย่างเคร่งครัด
– กรณีสิ้่นสุดการแข่งขัน หรือระงับการใช้สนาม จะมีรถ Safety Car ตำแหน่งเข้า Pit Stop พร้อมสัญญาณธง และรถ Safety Car อีกหนึ่งคันจะเข้าทำการเคลียร์สนามจนกว่ารถจะออกจากสนามทุกคัน
การใช้สนาม ควรรปฏิบัติตามสัญลักษณ์ธง และปฏิบัตืตามคำสั่งของรถ Safety Car เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้สนามทุกท่าน
เพื่อนๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงจับตารถใหม่ในงาน Motor Expo 2014 (มอเตอร์ เอ็กซ์โปร 2014) และการจัดแสดงรถยนต์อื่นๆ ได้ที่ Thaicarlover.com ครับ