สาวก Ford Everest ห้ามพลาด กับรุ่น Platinum V6 3.0 Turbo 10AT 4×4 ใส่สเปคและอ็อพชั่นมาแน่นกว่ารุ่น Titanium+ มีความเสถียรและทนทานยิ่งขึ้น ในราคา 2,279,000 บาทจำกัดเพียง 350 คัน
ตัวถังภายนอกของ Ford Everest Platinum V6 2024 มีให้เลือก 5 สี ได้แก่
- สีเงิน Aluminium Metallic
- สีเทา Meteor Grey
- สีดำ Absolute Black
- สีน้ำตาล Equinox Bronze
- สีขาว Snowflake White Pearl (เพิ่มเงิน 12,000 บาท)
มิติตัวรถ
- สูง: 1,842 มม.
- กว้าง: 1,923 มม.
- ความยาว: 4,914 มม.
อุปกรณ์ภายนอก (Exterior Equipment)
- ล้ออัลลอย ขนาด 21 นิ้ว
- ยางขนาด 275/45 R21
- ไฟหน้าแบบ Matrix LED ระบบปรับมุมลำแสงไฟอัตโนมัติ
- ไฟส่องสว่างในเวลกลางวันแบบ LED รูป C-Clamp
- ไฟส่องสว่างมุมด้านข้างขณะเลี้ยว Cornering Light
- ไฟสูงอัตโนมัติ พร้อมระบบป้องกันไฟแยงตา Glare-free High beam
- ระบบเปิด – ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
- ไฟตัดหมอกด้านหลังแบบ LED
- ไฟท้ายแบบ LED Signature
- กรอบกระจกหน้าต่างสีเงินด้าน Satin Chrom
- กระจกหน้าสีเงินด้าน Satin Chrom
- ราวหลังคาแบบลอยตัว
- บันไดข้างสีเงิน
- กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED
- มือเปิดประตูสีเดียวกับตัวรถ
- ระบบปัดนํ้าฝนแบบอัตโนมัติ
- ฝาท้ายเปิด – ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชั่น Hand-free
- ไฟส่องสว่างข้างตัวรถ Puddle Lamps
- ระบบไฟส่องสว่างภายนอกแบบแบ่งโซน Zone Lighting
- สัญลักษณ์ PLATINIUM บริเวณประตูคู่หน้า และฝากระโปรงหลัง
- สัญลักษณ์ V6 บริเวณช่องระบายอากาศด้านข้าง
- ระบบไฟส่องสว่างภายนอกแบบแบ่งโซน Zone Lighting
อุปกรณ์ภายใน (Interior Equipment)
- วัสดุตกแต่งภายในสีเทาดำ Black Maple
- เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังแท้และหนังสังเคราะห์
- เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มดันหลังแบบไฟฟ้า 2 ทิศทาง
- ระบบบันทึกความจำตำแหน่งเบาะนั่งคนขับ Memory Seat
- ระบบอุ่นและระบายอากาศ สำหรับเบาะนั่งคู่หน้า
- เบาะนั่งแถวที่ 2 แบบเลื่อนขึ้นหน้า – ถอยหลังได้ และแยกปรับและพับ 60 : 40
- เบาะนั่งแถวที่ 3 แบบแยกพับ 50 : 50 และสวิตช์พับเบาะนั่งจากด้านหลัง แบบไฟฟ้า
- หลังคาสีดำ Panoramic Sunroof แบบปรับไฟฟ้า
- ชุดมาตรวัดแบบสี TFT ขนาด 12.4 นิ้ว
- หน้าจอแสดงผลจอสีแบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 12 นิ้ว
- ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC® 4A (Best in Class) รองรับ Wireless Apple CarPlay® และ Android Auto™
- พวงมาลัย ปรับได้ 4 ทิศทาง (ขึ้น – ลง และเข้า – ออก)
- ปุ่ม Push Start/Stop
- กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
- ช่องชาร์จ USB Type-A บริเวณกระจกมองหลัง
- คันเกียร์แบบไฟฟ้า E-Shifter
- เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อม Auto Brake Hold
- ระบบปรับอากาศด้านหน้าแบบอัตโนมัติ Dual-zone
- ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
- แผงบังแดดคู่หน้า พร้อมที่เสียบนามบัตร
- ไฟอ่านแผนที่ และไฟส่องสว่างภายในตัวรถ
- ช่องเก็บแว่นตา
- ไฟตกแต่งภายในห้องโดยสาร Ambient Lighting
- ม่านบังแดดคู่หน้า แบบปรับระยะพร้อมกระจก ไฟส่องสว่าง
- ม่านบังแดดคู่หน้า พร้อมไฟส่องสว่าง
- ช่องชาร์จและเชื่อมต่อ USB Type-A 1 ตำแหน่ง และ USB Type-C 1 ตำแหน่ง สำหรับผู้โดยสารด้านหน้า
- ช่องชาร์จ USB Type-A 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้โดยสารแถวที่ 2
- ช่องชาร์จไฟ Power Outlet 12V 3 ตําแหน่ง (บริเวณที่วางแขน, เบาะแถวที่ 3 และพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง)
- ช่องชาร์จไฟ 230V (400W) 1 ตําแหน่ง
- แท่นชาร์จไร้สาย (Wireless Charger)
- หน้าจอกลางระบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 12 นิ้ว
- ชุดเครื่องเสียง พร้อมลำโพง Bang & Olufsen (B&O) 12 ตำแหน่ง
- ระบบเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto
- ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth
- ระบบ SYNC 4A รองรับภาษาไทย
- ระบบเชื่อมต่อ FordPass Connect
- กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา
เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง (Engine & Drivetrain)
เครื่องยนต์ดีเซล V6 (60 องศา) DOHC 24 วาล์ว 3.0 ลิตร 2,993 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 84.0 x 90.0 มิลลิเมตร (Power Stroke) ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct-injection ผ่านราง Common-rail กำลังอัด 16.0 : 1 ลำดับการจุดระเบิด : 1 – 4 – 2 – 5 – 3 – 6 พ่วงระบบอัดอากาศ Turbocharged กำลังสูงสุด 184 กิโลวัตต์ หรือ 250 แรงม้า (PS) ที่ 3,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,250 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Full-time 4A พร้อมระบบ Active Centre Differential และระบบล็อกเฟืองท้าย Dift Lock ที่ล้อคู่หลัง รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด ดีเซล B20 ผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro 5
มาพร้อมโหมดการขับขี่ 6 รูปแบบ ได้แก่
- Normal
- Eco (ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง เท่านั้น)
- Tow / Haul
- Slippery
- Mud / Ruts
- Sand
อุปกรณ์ความปลอดภัย
- ถุงลมนิรภัย 7 จุด บริเวณ คู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมบริเวณหัวเข่า
- ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน
- สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและหลัง
- ระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System) พร้อม Electric Brake Booster
- ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (Hill Launch Assist)
- ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ (Roll-Over Mitigation)
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา (Hill Descent Control)
- เบรกมือไฟฟ้า
เทคโนโลยีช่วยขับขี่
- ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Fully Automated Active Park Assist System)
- ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ Stop&Go
- ระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง
- ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ
- ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB)
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System)
- ระบบช่วยควบคุมรถหลังจากชน
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (Lane Departure Alert)
- ระบบตรวจจับรถในจุดบอด และระบบตรวจจับขณะออกจากช่องจอด (Blind Spot Information System – BLIS® with cross-traffic alert)
- กล้องมองรอบคัน 360 องศา
- ระบบป้องกันการชนเมื่อถอยหลัง
- ระบบช่วยการหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ (Evasive Steering Assist)
- ระบบตรวจเช็กลมยาง
Ford Everest Platinum V6 ดีเซล 3.0 ลิตร รุ่นปี 2024 ใหม่ มาพร้อมรับประกันคุณภาพตัวรถ Warranry 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) และเคาะราคาทางการที่ 2,279,000 บาท จำกัดจำนวน 350 คัน เปิดรับจองผ่าน www.ford.co.th ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2567 เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป