All-New Ford Ranger Raptor 2022 ใหม่ ถูกเผยโฉมพร้อมเปิดรายละเอียดอย่างเป็นทางการก่อนวางจำหน่ายจริงในปี 2565 นี้ ชูไฮไลท์ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V6 EcoBoost เทอร์โบคู่ ขนาด 3.0 ลิตร กำลังสูงสุด 397 แรงม้า และยังมีเครื่องยนต์ดีเซล Bi-Turbo ขนาด 2.0 ลิตร ให้เลือกเช่นเดิม พร้อมระบุว่าเป็น “กระบะออฟโรดที่ทรงพลังที่สุดในตระกูลเรนเจอร์”
ภายนอก FordRanger Raptor 2022
ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ 2022 เจเนอเรชันใหม่ ได้รับการออกแบบให้มีรูปลักษณ์ภายนอกดุดัน สมกับสมรรถนะที่ได้รับการยกระดับไปอีกขั้น ทั้งซุ้มล้อที่ใหญ่ขึ้นเพิ่มความกว้างของรถ ไฟหน้าใหม่รูปตัว C อันเป็นดีเอ็นเอของรถกระบะฟอร์ด ตัวอักษร F-O-R-D ขนาดใหญ่บนกระจังหน้า และกันชนที่เป็นอิสระจากกระจังหน้า
ไฟหน้าแบบเมทริกซ์ LED พร้อม ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Day-time Running Lights) แบบแอลอีดีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการส่องสว่างขึ้นอีกระดับ โดดเด่นด้วยไฟเลี้ยวแบบไดนามิก ไฟสูงแบบตัดแสงและการปรับระดับแสงแบบอัตโนมัติเพื่อให้แสงสว่างที่ปลอดภัยต่อผู้ขับขี่ รวมถึงผู้สัญจรที่ขับสวนทาง
ล้ออัลลอยใหม่ขนาด 17 นิ้ว มาพร้อม ยางออลเทอร์เรน BFGoodrich® KO2® ดูดุดันและสะดุดตา ช่องลมข้างบังโคลนนอกจากความสวยงามและยังมีประโยชน์ด้านอากาศพลศาสตร์เช่นเดียวกับการออกแบบพื้นผิวทั้งหมด บันไดข้างดีไซน์ใหม่ทำจากอลูมิเนียมที่แข็งแรง ช่วยเสริมรูปลักษณ์และฟังก์ชันการใช้งานให้กับรถ
ส่วนด้านหลังใช้ไฟท้ายแบบ LED กลมกลืนกับไฟหน้า กันชนหลังสีเทาเข้มมีบันไดเหยียบเพื่อขึ้นกระบะท้าย และมีตะขอลากจูงคู่หน้าและหลังทำให้รถพร้อมลุยในเส้นทางออฟโรดทุกสถานการณ์ ให้ผู้ขับขี่เลือกใช้ตะขอใดตะขอหนึ่งเป็นจุดยึดสายลากจูงได้ ในกรณีที่ตะขออีกด้านเข้าถึงได้ยาก จากหลุมทรายลึกหรือบ่อโคลน โดยรายละเอียดต่างๆของอุปกรณ์อาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละตลาด และ มร. เดฟ ดูวิทท์ ผู้จัดการฝ่ายออกแบบภายนอก ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ กล่าว “เพียงแค่มองรูปลักษณ์ภายนอก คุณจะรับรู้ได้ทันทีว่ารถคันนี้เป็นรถยนต์ออฟโรดสมรรถนะสูง”
นอกจากนี้ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ ใช้แชสซีอันเป็นเอกลักษณ์แตกต่างจาก ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ โดยเพิ่มการประกอบและอุปกรณ์เสริมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเสาซี กระบะท้าย ล้ออะไหล่ ไปจนถึงโครงรถแบบพิเศษที่พร้อมรองรับแรงกระแทกจากกันชน ขายึดโช้ค และฐานยึดโช้คหลัง ทั้งหมดนี้จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ พร้อมตะลุยเส้นทางออฟโรดสุดแสนหฤโหด
ภายใน Ford Ranger Raptor 2022 ใหม่
การออกแบบภายในยังตกแต่งให้สอดคล้องกับภายนอก มีความดุดันของการเป็นออฟโรดสมรรถนะสูง ห้องโดยสารได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด มีทำงานด้วยระบบดิจิทัลแผงหน้าปัดความชัดเจนสูงขนาด 12.4 นิ้ว และหน้าจอแบบสัมผัสตรงกลางขนาด 12 นิ้ว แสดงผลการเชื่อมต่อและระบบ
ความบันเทิงสั่งการผ่าน ระบบเสียง SYNC 4A® รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ระบบเสียง Bang & Olufsen®iiii 8 ตำแหน่ง มอบประสบการณ์เสียงเหนือระดับระหว่างการผจญภัยครั้งใหม่
ส่วนตัวเบาะที่นั่งแบบสปอร์ต ทั้งเบาะหน้าและหลัง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเครื่องบินรบ อีกทั้งยังมอบความสบายและกระชับแม้รถวิ่งด้วยความเร็วบนทางโค้ง การตกแต่งรายละเอียดต่างๆจะเป็นโทนสีส้ม ‘โค้ด ออเรนจ์’ บนแผงหน้าปัด การตัดขอบชิ้นส่วนหลักๆ ในห้องโดยสาร รวมถึงบนเบาะที่นั่งแบบสปอร์ตดูโดดเด่นยิ่งขึ้นอีกเมื่อเปิดไฟส่องสว่างสีอำพันอบอุ่นภายในห้องโดยสาร เสริมความหรูหราอีกขั้นด้วยพวงมาลัยหนังเกรดพรีเมียมจับกระชับมือพร้อมแถบบอกตำแหน่งองศาพวงมาลัยหรือ On- centre mark และแป้นแพดเดิลชิฟต์เคลือบแมกนีเซียม
สมรรถนะ Ford Ranger Raptor 2022 ใหม่
สุดยอดสมรรถนะจากเครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร EcoBoost V6 เทอร์โบคู่ มอบพละกำลังถึง 397 PS และแรงบิด 583 นิวตันเมตร ที่ 3,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมระบบป้องกันการรอรอบ (Anti-Lag System – ALS) ที่ทำงานในโหมดบาฮา ช่วยรักษาการหมุนของเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่ความเร็วสูงต่อไปอีก 3 วินาทีหลังจากปล่อยคันเร่ง ช่วยเพิ่มการตอบสนองในขณะเร่งออกจากโค้ง หรือระหว่างการเปลี่ยนเกียร์ได้
สู่สมรรถนะเหนือระดับทั้งบนทางเรียบและเส้นทางออฟโรด ระบบท่อไอเสียแบบแปรผันควบคุมไฟฟ้าครั้งแรกในรถกระบะ ให้ผู้ขับขี่ปรับเสียงเครื่องยนต์ตั้งแต่โหมด
- โหมดเงียบ – ออกแบบมาเพื่อตั้งค่าให้ท่อไอเสียเงียบมากกว่าการอวดสมรรถนะ เหมาะสำหรับการสตาร์ทรถตอนเช้าตรู่ เพื่อลดเสียงรบกวนเพื่อนบ้านหรือผู้คนในชุมชน
- โหมดปกติ – สำหรับใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน ด้วยเสียงเครื่องยนต์ที่ไม่ดังเกินไปสำหรับการขับบนท้องถนน โดยจะเป็นค่าเริ่มต้นกับการขับขี่โหมดปกติ โหมดถนนลื่น โหมดโคลน และโหมดหิน
- โหมดสปอร์ต – มอบเสียงดังกระหึ่มขึ้น เมื่อต้องการเพิ่มความตื่นเต้นเร้าใจยิ่งขึ้น
- โหมดบาฮา – โหมดเสียงที่อวดความแรงสูงสุดทั้งความดังและความทุ้ม เสมือนระบบต่อตรงออกแบบมาสำหรับการขับขี่ออฟโรดเท่านั้น
ช่วงล่าง Ford Ranger Raptor 2022 ใหม่
ช่วงล่างของรุ่นนี้ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด ด้วยปีกนกบนและล่างที่ทำจากอลูมิเนียมที่แข็งแรง แต่มีน้ำหนักเบา รวมถึงระบบกันสั่นสะเทือนที่มีระยะยืดยุบสูง พร้อมวัตต์ลิงก์ด้านหลังที่พัฒนามาเพื่อให้เจ้าของรถขับขี่ด้วยความเร็วสูงบนถนนขรุขระได้อย่างมั่นใจ
“การพัฒนาระบบช่วงล่างใหม่ของ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ ใช้ประโยชน์สูงสุดจากโช้คแบบ Live Valve ของ FOX ระบบช่วงล่างของรถปรับได้แบบเรียลไทม์เพื่อประสบการณ์การขับขี่ทางเรียบที่เหนือระดับ ในขณะที่ยังสามารถซับแรงกระแทกจากพื้นผิวขรุขระและทางลูกรังในการขับขี่แบบออฟโรดได้อย่างง่ายดาย ช่วยเรื่องการทรงตัวและการควบคุมรถให้ดียิ่งขึ้น” เดฟ กล่าว
และยังมีแผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถที่มีขนาดใหญ่เกือบ 2 เท่าของขนาดปกติที่ใช้กับฟอร์ด เรนเจอร์ อีกทั้งยังทำขึ้นจากเหล็กที่มีความแข็งแรงหนา 2.3 มิลลิเมตร เมื่อประกอบเข้ากับแผ่นปิดใต้เครื่องยนต์และชุดเกียร์จึงช่วยปกป้องชิ้นส่วนสำคัญ อาทิ หม้อน้ำ ระบบบังคับเลี้ยว คานด้านหน้า อ่างน้ำมันเครื่อง และชุดเฟืองได้ดีเยี่ยมฟอร์ด นอกจากนี้ยังเลือกใช้น้ำมันหล่อลื่นผสม Teflon™ ที่ลดการเสียดสีลงได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ รุ่นก่อนหน้านี้”
ขณะที่ส่วนฮาร์ดแวร์ผลิตโดย FOX แต่ทีมฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ คือผู้รับหน้าที่ปรับจูนและพัฒนาโช้คอัพรุ่นนี้โดยผสมผสานการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในงานด้านวิศวกรรม (Computer-Aided Engineering หรือ CAE) และการทดสอบรถในสถานการณ์จริง ตั้งแต่การปรับการทำงานของสปริงไปจนถึงการกำหนดความสูง การปรับแต่งวาล์ว และการออกแบบระดับการยืด-หดของโช้ค เพื่อสร้างความสมดุลที่สมบูรณ์แบบที่สุด มอบทั้งความสะดวกสบาย การควบคุมรถ ความมั่นคง และการยึดเกาะถนนทั้งบนทางเรียบและเส้นทางออฟโรด
โหมดการขับขี่ Ford Ranger Raptor 2022 ใหม่
พร้อมลุยทุกสภาพพื้นผิวด้วยโหมดการขับขี่ 7 โหมดดังนี้
โหมดการขับขี่ทางเรียบ
– โหมดปกติ – ออกแบบมาเพื่อความสบาย ประหยัดเชื้อเพลิง และขับขี่สะดวก
– โหมดสปอร์ต – ออกแบบมาให้ตอบสนองไวขึ้นสำหรับการขับขี่บนถนนอย่างสนุกสนาน
– โหมดทางลื่น – ออกแบบมาให้ผู้ขับมีความมั่นใจในการขับขี่บนถนนลื่นหรือพื้นถนนที่ไม่สม่ำเสมอ
โหมดการขับขี่ออฟโรด
– โหมดหิน – มอบการยึดเกาะและการทรงตัวที่เหนือชั้นบนพื้นผิวที่ลื่นไถลได้ง่าย
– โหมดทราย – สำหรับใช้ขับบนพื้นทรายหรือหิมะ เพิ่มประสิทธิภาพการส่งกำลังและการเปลี่ยนเกียร์
– โหมดโคลน – เพิ่มศักยภาพในการยึดเกาะขณะออกตัว และรักษาการทรงตัวของรถ
– โหมดบาฮา – เปลี่ยนเข้าสู่การขับขี่ด้วยความเร็วสูงเต็มสมรรถนะ โดยปรับทุกระบบให้พร้อมสำหรับการลุย
ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ ยังมาพร้อมระบบควบคุมความเร็วสำหรับการขับขี่ออฟโรด (Trail Control™) ทำหน้าที่เสมือนระบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติสำหรับการขับขี่ออฟโรด ผู้ขับขี่สามารถเลือกความเร็ว (ไม่เกิน 32 กิโลเมตร/ชั่วโมง) รถจะควบคุมการเร่งความเร็วและการเบรก ผู้ขับขี่เพียงจดจ่อกับการบังคับควบคุมพวงมาลัยเพื่อฝ่าเส้นทางสุดท้าทายได้ง่ายขึ้น
เดฟ กล่าว ต่อว่า “เราต้องการให้โหมดบาฮาเป็นตัวแทนขั้นสุดของการขับขี่ออฟโรดความเร็วสูง” “ฟีเจอร์นี้เรียกได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญที่ลูกค้าฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ โดยโหมดการขับขี่แต่ละโหมด ii จะควบคุมการตั้งค่าการทำงานส่วนต่างๆ ของรถโดยละเอียด ตั้งแต่เครื่องยนต์ เกียร์ ความไวในการใช้ระบบเบรกอัตโนมัติ (ABS) การประมวลผล การยึดเกาะถนน ความมั่นคง ระบบท่อไอเสีย พวงมาลัย การตอบสนอง
ส่วนราคายังไม่แน่ชัดรอประกาศจากทางค่ายอีกครั้ง พร้อมกำหนดการวางจำหน่ายจะมีขึ้นในปี 2566 ที่จะถึงนี้ และขอแจ้งเพิ่มเติมตามรายละเอียดดังนี้
หมายเหตุ
- i รายละเอียดของรถอาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ โดยแต่ละประเทศจะมีการแจ้งให้ทราบก่อนการเปิดตัว
- ii โหมดบาฮาใช้สำหรับการขับขี่ออฟโรดเท่านั้น
- iii ล้อบีดล็อกเป็นชุดแต่งเพิ่มเติม และมีจำหน่ายเฉพาะในประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
- iv เทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะเป็นเพียงเทคโนโลยีเสริมช่วยผู้ขับขี่เท่านั้น และไม่สามารถทดแทนสมาธิ การตัดสินใจ และการควบคุมรถของผู้ขับขี่ได้ โปรดศึกษารายละเอียดและข้อจำกัดต่างๆ จากคู่มือผู้ใช้รถ
- v การใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ บนระบบ SYNC® 4A อาจไม่รองรับการทำงานบนโทรศัพท์บางรุ่น
- vi BANG & OLUFSEN© 2022 และ B&O© 2022 โดย BANG & OLUFSEN™ และ B&O™ จดทะเบียนภายใต้เครื่องหมายการค้าของ Bang & Olufsen Group สงวนลิขสิทธิ์โดย Harman Becker Automotive Systems Manufacturing Kft
เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ได้ที่ Thaicarlover.com หรืออีกหนึ่งช่องทางง่ายๆ จากทางแฟนเพจ เพียงกด