Kia Niro เจเนอเรชันที่สองได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งาน Seoul Motor Show ในเดือนพฤศจิกายน แต่ผู้ผลิตรถยนต์ยังไม่ได้มีการระบุรายละเอียดข้อมูลของรถยนต์  ล่าสุดทาง Kia ได้ออกมาให้รายละเอียดเกี่ยวกับรุ่นไฮบริด พร้อมข้อมูลด้านอุปกรณ์ความปลอดภัย

Kia กล่าวว่า Niro นั้นใช้ “แพลตฟอร์มรุ่นที่สาม” ซึ่งน่าจะเป็นเวอร์ชันที่ได้รับการปรับปรุงอย่างหนัก เนื่องจาก E-GMP ใหม่ สงวนไว้สำหรับรุ่น EV เท่านั้น วิศวกรของ Kia ได้ปรับปรุงระบบบังคับเลี้ยวและระบบกันสะเทือน โดยที่ McPherson Struts ที่ด้านหน้าและการติดตั้ง Four-link ที่ด้านหลังได้ประโยชน์จากการตั้งค่าใหม่

สำหรับตัวถังของ Kia Niro Hybrid ปี 2022  จะมีขนาดความยาว 4,420 มม. (174 นิ้ว) กว้าง 1,825 มม. (71.85 นิ้ว) และสูง 1,545 มม. (60.82 นิ้ว) โดยมีระยะฐานล้อ 2,720 มม. (107 นิ้ว) ซึ่งหมายถึงความยาวที่เพิ่มขึ้น 65 มม. (2.5 นิ้ว) ความกว้าง 20 มม. (0.78 นิ้ว) ความสูง 10 มม. (0.39 นิ้ว) และระยะฐานล้อที่เพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ อีกทั้งภายในห้องโดยสารยังกว้างขวางขึ้นอีกด้วย

โดยภายในห้องโดยสารได้รับแรงบันดาลใจจาก EV6 มีหน้าจอขนาด 10.25 นิ้วที่ผสานเข้ากับแผงหน้าปัดและอินโฟเทนเมนท์ รวมถึงจอแสดงผลบนกระจกหน้าขนาด 10 นิ้ว มีส่วนแยกต่างหากสำหรับระบบควบคุมสภาพอากาศ แผ่นชาร์จไร้สาย ช่องเสียบ USB C-Type ไฟโดยรอบ และคันเกียร์ทรงกระบอกสำหรับกระปุกเกียร์อัตโนมัติ

คุณสมบัติด้านเทคโนโลยีอื่นๆ ได้แก่ การจดจำเสียงขั้นสูง ประตูท้ายไฟฟ้า กุญแจดิจิตอล และกล้องหน้าและกล้องหลังในตัว ชุด ADAS ของ Kia DriveWise มีระบบล่าสุดทั้งหมดรวมถึง Remote Smart Parking Assist, Highway Driving Assist, Smart Cruise Control ตามการนำทาง, Safe Exit Assist, Rear Cross-Traffic Traffic Collision-Avoidance Assist, Junction Turning และ Junction Crossing functions

สำหรับสมรรถนะการขับเคลื่อนจะมาพร้อมระบบส่งกำลังไฮบริดที่ชาร์จด้วยตนเองใน Kia Niro HEV ใหม่ประกอบด้วยเครื่องยนต์สี่สูบ GDI Smartstream 1.6 ลิตรที่ได้รับการปรับปรุงซึ่งให้กำลัง 103 แรงม้า (77kW / 105 PS) และแรงบิด 144 Nm (106.2 lb-ft) พร้อมแม่เหล็กถาวร มอเตอร์ไฟฟ้าแบบซิงโครนัสซึ่งดีสำหรับการเพิ่ม 43 แรงม้า (32 กิโลวัตต์ / 44 PS) เอาต์พุตรวมคือ 139 แรงม้า (104 กิโลวัตต์ / 141 PS) ซึ่งเหมือนกับรุ่นก่อนหน้า ส่งกำลังไปยังเพลาหน้าด้วยระบบคลัตช์คู่ DCT อัตโนมัติ 6 จังหวะ

อีกหนึ่งความพิเศษ โมเดลนี้ได้นำเสนอโหมดการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ “Green Zone Drive” ที่สามารถเปิดใช้งานในสถานที่เฉพาะ เช่น ย่านที่อยู่อาศัย โรงเรียน หรือโรงพยาบาล  ส่วนการขาย Kia Niro HEV นั้นจะเริ่มในเกาหลีตั้งแต่เดือนนี้ และตลาดทั่วโลกจะตามมาในปี 2022 สำหรับรุ่น PHEV และ BEV

ที่มา : Carscoops

เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ได้ที่ Thaicarlover.com หรืออีกหนึ่งช่องทางง่ายๆ จากทางแฟนเพจ เพียงกด