Lamborghini คืนชีพ Hyper Car ประกาศเปิดตัวรถรุ่นพิเศษ Lamborghini Countach LPI 800-4 รุ่นดั้งเดิมให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง พร้อมดีไซน์ในสไตล์สุดคลาสสิค เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 50 ปีของซูเปอร์คาร์ในตำนาน

Lamborghini Countach กำเนิดขึ้นเมื่อปี 1971 ในฐานะรถคอนเซ็ปต์ LP500 ก่อนเข้าสู่ผลิตจริงในรุ่น LP400 เมื่อปี 1974 ที่มาพร้อมกับการยกระดับดีไซน์ซูเปอร์คาร์ที่มีความทันสมัยอย่างมากในยุคนั้น

ภายนอก Lamborghini Countach LPI 800-4

ตัวรถออกแบบโดย Marcello Gandini ตัวถังเป็นคาร์บอนไฟเบอร์รอบคัน โครงสร้างใช้คาร์บอนไฟเบอร์แบบโมโนค็อก ตัวรถยาวขึ้น 29 นิ้ว หรือ 736 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 14.9 นิ้ว หรือ 378 มิลลิเมตร และสูงขึ้น 2.8 นิ้ว หรือ 71 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,700 มิลลิเมตร เหมือนกับ Aventador ซึ่งยาวกว่าเดิมอีก 254 มิลลิเมตร

จุดเด่นของรถรุ่นนี้นอกจากตัวถังทรงเหลี่ยมที่นึกถึงยานอวกาศแล้ว ยังได้ออกแบบทรงรถให้ดูโฉบเฉี่ยวตามหลัก “แคปฟอร์เวิร์ด” (cab forward) ซึ่งทำให้มีพื้นที่ท้ายรถไว้วางเครื่องมากขึ้น บานประตูกรรไกร หรือลัมโบร์ดอร์ (Lambo doors) อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ยังคงใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน

Lamborghini Countach LPI 800-4 ได้รับการถ่ายทอดการดีไซน์และรายละเอียดจาก Lamborghini Countach ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมู, จมูกรถที่แบน และช่องไอดีทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า นึกถึง LP5000 QV (Quattrovalvole) รุ่นปี 1985 อันเป็นอีกหนึ่งรุ่นย่อยของ Countach, ซุ้มล้อทรงหกเหลี่ยมพร้อมล้ออัลลอยสีเงินล้อหน้าหลังขนาด 20 – 21 นิ้ว หุ้มยาง Pirelli P Zero Corsa

กระจกมองข้างที่ได้แรงบันดาลใจจาก Countach รุ่นดั้งเดิม, แนวหลังคาและกระจกบังลมด้านหลังสไตล์ periscopio รวมถึงองค์ประกอบอื่น ๆ อาทิ ท่ออากาศ Naca ขนาดใหญ่ที่ด้านข้างรถ และช่องดักอากาศเหนือซุ้มล้อหลังด้านบนที่ยกมาจากรุ่นฉลองครบรอบ 25 ปี ซึ่งเป็นรุ่นสุดท้ายของ Countach ในปี 1988

ส่วนท้ายรถก็เป็นไฟท้ายทรง 6 เหลี่ยมที่ยกมาจาก Sián โดยที่ขอบทรง 6 เหลี่ยม ที่ยาวเชื่อมอีกฝั่งก็ได้ถอดแบบจาก Countach แต่ให้ความเพียวบางมากกว่า, กันชนท้ายพร้อมแผงดิฟฟิวเซอร์ และท่อไอเสีย 4 ท่อวางกลางที่ดูดุดันยิ่งขึ้น ส่วนตัวล้ออัลลอยที่เปิดโล่งเห็นคาลิเปอร์เบรกสีแดง และดิสก์เบรกคาร์บอนเซรามิก รวมถึงระบบไฟส่องสว่างจะเป็นไฟ LED ทั้งหมด ส่วนเทคโนโลยีแอโร่ไดนามิกยังไม่มีการเปิดเผยต้องรอดูอีกที

ภายใน Lamborghini Countach LPI 800-4

เข้ามาด้านในถูกใจเป็นอย่างมากเพราะภายในด้วยเบาะหนังสีแดงสไตล์คลาสสิก พร้อมเพิ่มโทนสีดำให้ดูโดดเด่น ซึ่งได้แรงบันดาลใจจาก Countach LP 400 S และภายในยังมีการผสมผสานอุปกรณ์จากรถทั้ง 2 รุ่น ทั้งพวงมาลัยและเบาะจาก Aventador 

ส่วนแผงคอนโซล, การ์ดประตู และคอนโซลกลางยกมาจาก Sián ส่วนช่องแอร์ได้มีการออกแบบใหม่พร้อมกับการตกแต่งแผงคอรโซลกลางด้วยการเพิ่มจอสัมผัสขนาด 8.4 นิ้ว รวมถึงติดตั้งปุ่ม Stile ในรูปแบบดีไซน์ใหม่ล่าสุดอีกด้วย

ขุมพลัง Lamborghini Countach LPI 800-4

สำหรับขุมพลังนั้นจะใช้ชุดเครื่องยนต์ไฮบริดแบบเดียวกับ Sián FKP 37 ด้วยเครื่องยนต์ V12 แบบ Mild-Hybrid ให้กำลังสูงสุด 814 แรงม้า (PS) หรือกำลังเครื่องยนต์ 780 แรงม้า (PS) จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า 34 แรงม้า (PS) ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ขับเคลื่อนสี่ล้อ รวมถึงระบบกักเก็บพลังงานจลน์จากระบบเบรกถูกเก็บไว้ใน Supercapacitor ที่มีน้ำหนักเบากว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบเดิม

ประสิทธิภาพทางเทคนิคของ Lamborghini Countach LPI 800-4 

• อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.8 วินาที
• อัตราเร่ง 0-200 กม./ชม. ใน 8.6 วินาที
• ความเร็วสูงสุด 355 กม./ชม.

Lamborghini Countach LPI 800-4 จะได้รับการเปิดอย่างเป็นทางการที่งาน The Quail: A Motorsports Gathering ในสหรัฐอเมริกา และจะผลิตจริงในจำนวนจำกัดแค่ 112 คัน สำหรับสีตัวถังจะมี สีขาว Bianco Siderale สุดเอ็กซ์คลูซีฟ แต่ลูกค้าสามารถเลือกเป็นสีอื่นเพิ่มเติมได้ไม่ว่าจะเป็นสีที่สะท้อนความเป็น Heritage Style

ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสีแบบ Solid เช่น สีที่โดดเด่นอย่างสีขาว Impact White Giallo Countach และ สีเขียว Verde Medio หรือหากเจ้าของรถต้องการสีที่มีความร่วมสมัยมากขึ้น ก็ยังมีสีแบบเมทัลลิกให้เลือกตามชอบ เช่นสียอดนิยมอย่าง สีม่วง Viola Pasifae หรือสีฟ้า Blu Uranus.เป็นต้น รวมถึงภายในสามารถเลือกได้ถึง 4 แบบ รวมถึงสีพรม, เพดาน และตะเข็บด้าย ตัวรถจะเริ่มส่งมอบให้กับลูกค้ารายแรกในช่วงไตรมาสแรกของปี 2022 แต่ราคายังคงต้องรอกันต่อไป

สำหรับ Lamborghini Countach ถือเป็นไฮเปอร์คาร์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Lamborghini เป็นอย่างมาก และได้ยุติการผลิตไปนานกว่า 30 ปี ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ทางค่ายตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อสดุดี และตั้งใจเอาเชื่อ Countach มาเป็นจุดขายอีกครั้ง งานนี้บอกเลยว่านักสะสมไม่ควรพลาดเพราะอาจจะเป็นหนึ่งในคอลเลชันที่นักสะสมต้องมีนั้นเอง

เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ได้ที่ Thaicarlover.com หรืออีกหนึ่งช่องทางง่ายๆ จากทางแฟนเพจ เพียงกด