MG3 เดิมเปิดตัวในปี 2011 และปรับโฉมใหม่ครั้งล่าสุดเป็นในปี 2018 ซึ่งมีอายุเกือบ 6 ปีแล้ว และควรถึงเวลาของเจเนอเรชันใหม่ที่ได้รับการออกแบบให้ทันสมัยกว่าเดิม พร้อมกำลังแบบไฮบริด
ดีไซน์ภายนอกของ MG3 ผสมผสานระหว่าง MG5 และ MG HS โดดเด่นด้วยไฟหน้าดีไซน์โฉบเฉี่ยว กระจังหน้าขนาดใหญ่ดีไซน์ดุดันพร้อมไฟตัดหมอกหน้าทรงกลม ไฟหน้า LED ทรงเรียวเพรียวสปอร์ต ด้านข้างเส้นสายดูกลมกลืนประณีตพร้อมดีไซน์หลังคารถที่ลาดลงตามยุคสมัย ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วลายห้าก้านพร้อมยาง 195/55 R16
ภายในห้องโดยสารมาพร้อมเบาะนั่งหุ้มหนังสังเคราะห์สีดำดีไซน์สปอร์ตคล้าย MG4 และเบาะหลังสามารถพับได้แบบ 60/40 แผงคอนโซลหน้าดีไซน์ไฮเทค คาดว่า ที่แผงคอนโซลจะได้รับการติดตั้งมาตรวัดดิจิทัลขนาดใหญ่แบบแยกส่วน มีจอสัมผัสขนาดใหญ่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
MG3 ขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริดที่รวมกับเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงถึง 109 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 142 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ในภาคเครื่องยนต์ จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 95 แรงม้าที่ 12,000 รอบต่อนาที แรงบิด 200 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Lithium-Ion ขนาดความจุแบต 2.1 kWh เมื่อทำงานร่วมกันได้แรงม้าสูงสุด 177 แรงม้า
All-New MG3 เจเนอเรชันที่ 3 ใหม่ จะเข้ามาทำตลาดแข่งขันกับ Toyota Yaris ทั้งในยุโรปและเอเชีย