Mitsubishi เปิดตัว XFORCE HEV อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2025 โดยเป็นการต่อยอดความสำเร็จของ XFORCE รุ่นเบนซิน พร้อมเพิ่มขุมพลังไฮบริดที่ให้ความประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่
- Ignite HEV ราคา 899,000 บาท
- Ultimate HEV ราคา 1,039,000 บาท
- Ultimate X HEV ราคา 1,089,000 บาท
รถรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาให้เหมาะกับการใช้งานในเมืองและรองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบาย ควบคู่ไปกับความประหยัดพลังงาน
ดีไซน์ภายนอก – สปอร์ต ทันสมัย พร้อมลุยทุกเส้นทาง
XFORCE HEV ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด “Silky & Solid” ที่เน้นทั้งความหรูหราและความแข็งแกร่ง โดยยังคงเอกลักษณ์ด้านหน้าของ Mitsubishi ด้วย Dynamic Shield แบบ 3 มิติ ที่ดุดันและโดดเด่น
- ไฟหน้า LED ดีไซน์ตัวที (T-Shape) พร้อมไฟ DRL ช่วยเพิ่มความสว่างและความปลอดภัยในการขับขี่
- กระจังหน้าแบบปิดบางส่วน (Closed Grille) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์
- ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์พิเศษ พร้อมยางแบบ All-Terrain รองรับทุกสภาพถนน
- บอดี้ที่ยกสูง ช่วยเพิ่มความมั่นใจเมื่อลุยเส้นทางที่ขรุขระ
นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกสีตัวถังแบบทูโทนให้เลือก รวมทั้งหมด 8 สี เช่น Energetic Yellow หลังคาดำ และ Graphite Gray หลังคาดำ ที่เพิ่มความสปอร์ตและความพรีเมียมให้กับตัวรถ
ภายในห้องโดยสาร – กว้างขวาง นั่งสบาย พร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย
ออกแบบภายใต้แนวคิด “Horizontal Axis” ที่เน้นความเรียบหรู ดูทันสมัย และใช้งานได้สะดวก
- หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
- จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ขนาด 8 นิ้ว พร้อมโหมด Eco แสดงผลการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์
- เบาะนั่งแบบ Heat Guard Fabric ลดการสะสมความร้อนจากแสงแดด นั่งสบายยิ่งขึ้น
- เบาะหลังปรับเอนได้ 8 ระดับ และพับได้แบบ 40:20:40 เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้อย่างอเนกประสงค์
- ระบบเครื่องเสียง Dynamic Sound Yamaha Premium Sound System พร้อมลำโพง 8 ตำแหน่ง ให้คุณภาพเสียงระดับพรีเมียม
- ระบบฟอกอากาศ nanoe™ X ช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ทำให้ภายในรถสะอาดและสดชื่น
ขุมพลังไฮบริด – แรง ประหยัด ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
XFORCE HEV ใช้ระบบขับเคลื่อนไฮบริด e:MOTION ที่ทำงานร่วมกันระหว่าง เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร กับ มอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงสุด 116 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 225 นิวตัน-เมตร อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 24.4 กม./ลิตร (มาตรฐาน Eco Sticker) ระบบเกียร์อัตโนมัติ 2-Speed Transaxle ช่วยให้การส่งกำลังราบรื่นและตอบสนองดีขึ้น โหมดการขับขี่ 4 รูปแบบ ได้แก่ Eco, Normal, Gravel และ Wet รองรับทุกสภาพถนน
เทคโนโลยีความปลอดภัย – อัดแน่นด้วยระบบอัจฉริยะ
Mitsubishi XFORCE HEV มาพร้อม แพ็กเกจความปลอดภัย Diamond Sense ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่
- กล้องมองภาพรอบคัน MAM (Multi Around Monitor) พร้อมระบบตรวจจับวัตถุเคลื่อนไหว
- ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าออกตัว (LCDN – Leading Car Departure Notification)
- ระบบเตือนจุดอับสายตา (BSW – Blind Spot Warning)
- ระบบช่วยเปลี่ยนเลน (LCA – Lane Change Assist)
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า พร้อมช่วยเบรกฉุกเฉิน (FCM – Forward Collision Mitigation)
- ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ (ACC – Adaptive Cruise Control)
- ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง (RCTA – Rear Cross Traffic Alert)
- ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ (AHB – Auto High Beam)
Mitsubishi XFORCE HEV มาพร้อมแพ็กเกจการรับประกันที่ครอบคลุม
- รับประกันตัวรถ 5 ปี หรือ 100,000 กม.
- รับประกันระบบไฮบริด 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
- รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
- ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กม.
หากคุณกำลังมองหาเอสยูวีที่ ประหยัดน้ำมัน ขับสนุก เทคโนโลยีล้ำสมัย และปลอดภัยสูง Mitsubishi XFORCE HEV คือตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยราคาที่คุ้มค่า เทคโนโลยีที่ทันสมัย และแพ็กเกจบริการหลังการขายที่ครอบคลุม