แบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอังกฤษกำลังจะปล่อยรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกจาก Range Rover EV ที่เคลมว่าจะให้ประสิทธิภาพสูงเหมือนกับรถยนต์สันดาปเครื่อง V8 เรือธง ที่คาดว่าจะเปิดตัวช่วงสิ้นปีนี้
Range Rover เปิดให้ลูกค้าได้ลงชื่อเข้าคิวรอซื้อตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคมปี 2023 ถือมีการให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ถึง 16,000 คน ถึงแม้ข้อมูลตัวรถยังไม่ได้เปิดเผยอย่างเป็นทางการ
หัวหน้าทีม Jaguar Land Rover อย่าง Adrian Mardell กล่าวว่า “ทางบริษัทตื่นเต้นมากที่ลูกค้าให้ความสนใจในโมเดลนี้อย่างล้นหลาม”
การพัฒนาของ Range Rover
รถยนต์ไฟฟ้าคันแรกของ Range Rover จะได้พื้นฐานมาจากโมเดลรถเครื่องยนต์สันดาป ทางวิศวกรฝ่ายสินค้าของ JLR ได้เคลมว่า “รถคันนี้จะเงียบที่สุด และเป็นรถที่ประณีตมากที่สุด” มุ่งเป้าไปที่การเป็น SUV ที่เหนือกว่า ค่ายอื่นๆ
จากภาพ preview แสดงให้เห็นถึงความคล้ายคลึงในการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์มาโดยตลอด แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงบางส่วนอย่างเห็นได้ชัด คันนี้จะใช้สถาปัตยกรรมการชาร์จ ได้พัฒนาโครงสร้าง 800 โวลต์หรือ 800 V ที่มีเสถียรภาพ ลดระยะเวลาชาร์จไฟ พร้อมกับลดน้ำหนักตัวรถได้อีกด้วย แถมรองรับการชาร์จไวแบบ Ultra-fast charge นั้นเอง
สมรรถนะของ Range Rover EV
แม้ว่าทาง Range Rover จะได้ไม่เผยรายละเอียดของสเปคและสมรรถนะของรถยนต์ไฟฟ้าโมเดลนี้ออกมาแต่ Thomas Müller ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายวิศวกรรมผลิตภัณฑ์ของ JLR ได้กล่าวว่ารถยนต์ไฟฟ้าคันนี้จะสามารถ “ขับไปได้ทุกสถานการณ์”
พร้อมให้ที่ลากจูง และด้วยความสามารถในการลุยน้ําลึก 850 มม. (33.4 นิ้ว) และทุกพื้นที่ที่จะเหนือกว่ารถ SUV ไฟฟ้าอื่นๆ รวมถึงยังรองรับการอัพเดตซอฟต์แวร์แบบ Over-The-Air
การใบ้ว่ารถยนต์ไฟฟ้า Range Rover จะให้สมรรถนะ “ที่สามารถเทียบชั้นกับสันดาปอย่าง V8 ได้” จึงคาดว่าโมเดลนี้อาจให้พละกำลังมาใกล้เคียง 523 แรงม้า
และอาจจะมาพร้อมมอเตอร์คู่ ที่สามารถขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD รวมถึงระบบ torque vectoring สำหรับการบูสท์เพื่อขับขี่แบบ Off-road
JLR ได้เริ่มโปรแกรมการทดลอง ก่อนผลิตรถยนต์ต้นแบบสำหรับโมเดลใหม่นี้ ด้วยการทดสอบการขับขี่เช่นในประเทศที่มีภูมิอากาศต่างกันเช่น ที่ประเทศสวีเดนที่หนาวเย็น และดูไบที่ร้อนอบอ้าว
เพื่อประเมินความทนทานของระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าล้วน แบตเตอรี่ และความสมบูรณ์แบบของแชสซีอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันก็ทำการทดสอบไดนามิกเพื่อลดอุณหภูมิและการระบายความร้อนนั้นเอง
ฐานการผลิต
Range Rover EV จะถูกผลิตที่โซลิฮัลล์ประเทศอังกฤษ ไปพร้อม ๆ กับเวอร์ชัน plug-in hybrid ที่ได้นำแบตเตอรี่ไฟฟ้าจากเจ้าอื่นๆ มาใช้ก่อนที่จะเปลี่ยนไปใช้แบตเตอรี่ที่ได้ผลิตขึ้นที่โรงงานใหม่ในซัมเมอร์เซต gigafactory ที่ทาง JLR และ Tata ได้สร้างไว้
ส่วนในเรื่องของแบตเตอรี่และระบบขับเคลื่อนของโมเดลนี้จะเริ่มประกอบที่ศูนย์การผลิตแห่งใหม่ในวูล์ฟแฮมป์ตัน
แผนอนาคต
อีกความน่าสนใจของโปรเจคนี้คือทาง Nick Miller หัวหน้าโปรเจคได้บอกกับ Autocar ว่าสถาปัตยกรรมแพลตฟอร์ม MLA สามารถรองรับพลังงานไฮโดรเจนได้หมายความว่าทาง Range Rover อาจจะมีรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนอยู่ในมือนั้นเอง อย่างที่เคยมีโปรเจค Project Zeus hydrogen development programme
Land Rover ได้เคยทำการทดสอบรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนจากรถต้นแบบรุ่น Defender นั้นเอง เรียกได้ว่ารถยนต์พลังงานไฮโดรเจนจะเป็น “ส่วนประกอบและตัวเลือกพลังงาน” นอกเหนือจากรถยนต์ไฟฟ้า ที่ทางแบรนด์ตั้งเป้าให้รถยนต์ทั้งหมดไร้ซึ่งมลพิษภายในปี 2036
รถยนต์ต้นแบบเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดนเจนคาดว่าจะทำการเผยโฉมในอนาคตนี้ คันนี้จะสร้างโอกาสมากมายให้กับแบรนด์ Land Rover ในการโชว์ให้เห็นว่าพลังงานไฮโดนเจนก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อยไปกว่ารถยนต์ไฟฟ้า แต่อาจจะแลกมากับตัวรถที่มีขนาดใหญ่กว่า หนักกว่า และยาวกว่านั้นเอง