Stellanti แบรนด์รถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส เปิดตัวรถต้นแบบ DS E-Tense Performance ซึ่งเป็น Super Car พลังงานไฟฟ้า 100% ที่ได้นำเอาเทคโนโลยีจาก Formula E มาปรับใช้ และพัฒนาต่อยอด
ภายนอก DS E-Tense Performance
โครงสร้างตัวถังแบบคาร์บอนไฟเบอร์ โมโนค็อก ถูกครอบด้วยเปลือกตัวถังที่มีรูปลักษณ์ภายนอกโฉบเฉี่ยว เริ่มตั้งแต่กระจังหน้าที่ผสานตราสัญลักษณ์ DS ไว้ตรงกลาง ไฟหน้าทรงล้ำยุคที่มาพร้อมกับหลอด LED จำนวนมากถึง 800 ดวง และด้วยเทคโนโลยีเฉพาะ ที่สามารถออกแบบให้ไฟเป็นเส้นบางเฉียบ เพิ่มความโดดเด่นด้านหน้ายิ่งขึ้น
พร้อมลูกเล่นด้วยไฟส่องสว่างยามค่ำคืน และที่แปลกใหม่สำหรับรถยนต์ทั่วไป DS ได้ติดตั้งกล้องแทนที่ไฟหน้าทั้ง 2 ข้าง เพื่อนำไปใช้งานร่วมกับระบบความปลอดภัยของตัวรถ ปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้วที่มีดีไซน์แปลกตา แต่แฝงไว้ด้วยความสามารถในเชิงอากาศพลศาสตร์ตามสไตล์รถ EV โดยงานดีไซน์ทั้งหมดจะเป็นตัวอย่างให้กับ DS Automobiles รุ่นต่อๆ ไปในอนาคต
ขุมพลัง DS E-Tense Performance
ตัวรถขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ที่ให้กำลังรวมกันสูงถึง 805 แรงม้า แบ่งเป็น 335 แรงม้าที่เพลาหน้า และ 469 แรงม้าที่เพลาหลัง มาพร้อมแรงบิดอันมหาศาลระดับ 8,000 นิวตัน-เมตร
ทั้งนี้ DS Performance ยังนำเอาระบบส่งกำลังไฟฟ้าของรถแข่ง Formula E มาติดตั้งอยู่บนตัวถังคาร์บอนโมโนค็อกของรถต้นแบบ Stellanti DS E-Tenseในส่วนของชุดแบตเตอรี่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการแข่งขัน Formula E เช่นเดียวกัน โดยเลือกใช้แบตเตอรี่แบบคอมโพสิตคาร์บอน-อลูมิเนียม ที่ติดตั้งไว้ที่ตำแหน่งตรงกลาวด้านหลังเพื่อการกระจายน้ำหนักที่เหมาะสม
และระบายความร้อนได้อย่างดีที่สุดด้วยของเหลวที่พัฒนามาโดยเฉพาะ Quartz EV Fluid ด้วยผลพวงจากเทคโนโลยีเหล่านี้ ทำให้แบตเตอรี่ไม่เกิดการสูญเสียพลังงาน สามารถนำไปสร้างพละกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้า 822 แรงม้า (PS) ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย โดยแบตเตอรี่มีกำลังมากถึง 600 กิโลวัตต์
ทั้งนี้ Stellanti จะพร้อมนำเสนอรถยนต์ในตระกูล DS ทั้งแบบ EV และ PHEV ทุกรุ่น รวมถึง Super Car อย่าง DS E-Tense อย่างเร็วที่สุดภายในช่วงปี 2024 ส่วนราคาต้องรอใกล้เปิดตัวอีกครั้งแล้วเราจะมาแจ้งให้ทราบอย่างแน่นอน
เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ได้ที่ Thaicarlover.com หรืออีกหนึ่งช่องทางง่ายๆ จากทางแฟนเพจ เพียงกด