Volkswagen AG และ Ford Motor Company ได้ประกาศการเป็นพันธมิตรระดับโลกอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ซึ่งเรื่องนี้ช่วยให้ทั้งสองบริษัทมีการแข่งขันที่ดีขึ้น และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ในวงการยานยนต์ที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดอยู่เวลา
ในขั้นต้นพันธมิตรใหม่ซึ่งไม่ใช่การเป็นเจ้าของร่วมกันจะส่งมอบรถกระบะขนาดกลาง และรถตู้เข้าสู่ตลาดโลกตั้งแต่ปี 2020 ซึ่งสิ่งนี้จะนำไปสู่การปรับปรุงผลดำเนินการก่อนหักภาษีประจำปี
ในขณะเดียวกัน VW และ Ford ยังได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเพื่อตรวจสอบการทำงานร่วมกันของรถยนต์ระบบขับขี่อัตโนมัติ การบริการระบบขนส่ง และรถพลังงานไฟฟ้า ในขณะเดียวกันยังเตรียมการพิจารณาโครงการรถยนต์ประเภทอื่น ๆ เพิ่มเติม
Jim Hackett ซีอีโอฟอร์ดกล่าวว่า “เมื่อเวลาผ่านไปการเป็นพันธมิตรจะช่วยให้ทั้งสองบริษัทสร้างคุณค่า และตอบสนองความต้องการของลูกค้า และสังคมของเรา” และ “ไม่เพียงช่วยให้ทั้งสองบริษัทปรับปรุง และขับเคลื่อนประสิทธิภาพของพวกเขา แต่ยังเปิดโอกาสให้เราได้ร่วมมือในการกำหนดยุคของการขับเคลื่อนสู่อนาคต”
ด้าน Dr. Herbert Diess ซีอีโอของ VW เพิ่มเติมว่า “Volkswagen และ Ford จะควบคุมทรัพยากรโดยรวมไม่ว่าจะด้านความสามารถ ด้านนวัตกรรม และตำแหน่งทางการตลาดเพื่อการบริการลูกค้าจำนวนหลายล้านทั่วโลก ในเวลาเดียวกันการเป็นพันธมิตรจะเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับการขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของเรา”
ทั้ง VW และ Ford มีธุรกิจรถตู้เชิงพาณิชย์ และรถกระบะทั่วโลกที่แข็งแกร่ง ตัวอย่างเช่น Ford Transit และ Ford Ranger หรือ VW Transporter, VW Caddy และ VW Amarok
เมื่อปีก่อนผู้ผลิตรถยนต์ทั้งสองรายจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ขนาดเล็กไปทั่วโลกราว 1.2 ล้านคัน ซึ่งนั่นจะนำไปสู่ความร่วมมือในการผลิตระดับสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งความต้องการรถกระบะขนาดกลาง และรถตู้เชิงพาณิชย์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอีก 5 ปีข้างหน้า
อันดับแรก Ford (ฟอร์ด) จะเริ่มต้นด้วยงานวิศวกรรม และการสร้างรถกระบะขนาดกลางเช่นเดียวกันกับรถตู้เชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่สำหรับลูกค้าชาวยุโรป ซึ่งคาดว่าจะมาภายในปี 2022 ในทางกลับกัน Volkswagen (โฟล์กสวาเกน) ตั้งใจที่จะพัฒนา และผลิตรถตู้แบบ City Van
เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ได้ที่ Thaicarlover.com หรืออีกหนึ่งช่องทางง่ายๆ จากทางแฟนเพจ เพียงกด