ปัจจุบันเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากในทุกภูมิภาคของโลก และมลพิษที่เกิดจากการยานพาหนะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้มีปัญหาด้านสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม
ดังนั้น เป้าหมายของการลดมลพิษที่เกิดจากรถยนต์จึงมีความสำคัญอย่างมาก และในทวีปยุโรป มีการกำหนดมาตรฐานด้านมลพิษ สำหรับยานพาหนะที่จำหน่ายในตลาด ที่เรียกว่า มาตรฐาน Euro Emissions Standards
มาตรฐาน Euro 7 Emissions Standard เป็นมาตรฐานที่จะเข้าสู่การใช้ในอนาคตที่ยุโรป มีเป้าหมายในการควบคุมมลพิษจากรถยนต์อย่างเข้มงวด มาตรฐานนี้เป็นการพัฒนาต่อจากมาตรฐานยูโร 6 ซึ่งเป็นมาตรฐานปัจจุบันในยุโรป
รถคันใดที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานการปล่อยมลพิษนี้จะไม่ได้รับอนุญาตให้จําหน่ายในสหภาพยุโรป
มาตรฐานการปล่อยมลพิษระดับยูโร 7 นั้นเน้นไปที่การควบคุมมลพิษจากรถยนต์ที่มากยิ่งขึ้น โดยมีการกำหนดค่าควบคุมต่างๆ ที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น เช่น ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SOx) หรือการลดมลพิษ ฝุ่นผงที่เกิดจากการเบรค รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เพื่อให้ได้รับการยอมรับ และประสบความสำเร็จในการดำเนินงาน การประยุกต์ใช้มาตรฐานระดับยูโร 7 นั้นจำเป็นต้องมีความร่วมมือระหว่างราชการ และภาคเอกชน รวมทั้งให้การสนับสนุน และส่งเสริมให้ผู้ผลิตรถยนต์มีเวลาในการปรับปรุงเทคโนโลยี และผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับมาตรฐานนี้ นอกจากนี้ยังควรมีการส่งเสริมการใช้งานรถที่ใช้พลังงานทดแทน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นสำหรับโลกในรุ่นหลัง
ภายใต้มาตรฐาน Euro 6 รถยนต์จะต้องปฏิบัติตามกฎอย่างน้อยห้าปีแรก หรือ 100,000 กม. แต่ Euro 7 จะเพิ่มข้อกําหนดการปฏิบัติตามกฎระเบียบสองเท่าเป็น 10 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร
ผลลัพธ์ที่คาดหวังจากมาตรฐานการปล่อยมลพิษใหม่นี้คือ ลดการปล่อยก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ หรือ NOx ลง 35% จากรถยนต์ และรถตู้ โดยรถยนต์ดีเซลไม่ควรผลิต NOx มากกว่า 80 mg/km สําหรับรถยนต์เบนซินไม่ควรมากกว่า 60 mg / km.
ในขณะที่ข้อเสนอยังไม่ได้รับการยืนยันจากรัฐสภายุโรป แต่คาดว่าจะเริ่มใช้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป
เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ได้ที่ Thaicarlover.com หรืออีกหนึ่งช่องทางง่ายๆ จากทางแฟนเพจ เพียงกด