Honda ได้ออกมาประกาศว่าตนเองจะหยุดขายรถยนต์ขุมพลังดีเซลในตลาดยุโรปภายในปี 2021 สาเหตุมาจากพวกเขากำลังมุ่งเน้นไปในตลาดรถที่มาพร้อมระบบไฮบริด และพลังงานไฟฟ้า พร้อมทั้งสัญญาว่าภายในปี 2025 จะผลิตรถยนต์ทุกรุ่นที่ใช้พลังงานไฟฟ้าสำหรับภูมิภาคนี้
ตามรายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์ส เผยว่าภายในปี 2030 ผู้ผลิตชาวญี่ปุ่นวางแผนระยะยาวด้วยการที่จะผลิตรถไฮบริด และรถพลังงานไฟฟ้าให้ได้ 2 ใน 3 ของไลน์ผลิตทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้นจากตอนนี้เล็กน้อยราว 10%
สำหรับการตัดสินใจของ Honda มาจากผลกระทบจากความต้องการรุ่นรถยนต์ขุมพลังดีเซลที่ลดลง และมาตรฐานการปล่อยมลพิษของสหภาพยุโรปที่เข้มงวดมากขึ้น โดยค่าเฉลี่ยการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ของรถยนต์รุ่นใหม่จะต้องลดลงที่ 95 กรัม/กิโลเมตร จากปัจจุบันอยู่ที่ 120.5 กรัม/กม. และภายในปี 2021 มาตรการใหม่จะถูกกำหนดให้กับรถยนต์ใหม่ทุกรุ่นที่วางจำหน่ายในสหภาพยุโรป
ในปัจจุบันค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นเจ้านี้ได้ตัดสินใจนำ Honda CR-V ขุมพลังดีเซลออกไปจากการเป็นตัวเลือกเสริม และแทนที่ด้วยขุมพลังไฮบริด นอกจากนั้นฮอนด้า ได้ประกาศแล้วว่า Honda Jazz (ที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า Honda Fit) เจเนอเรชั่นใหม่จะเป็นแบบไฮบริดเท่านั้น ในขณะที่ระบบส่งกำลังแบบพลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของค่ายจะมาถึงตลาดภายในในปี 2020 ส่วนรถยนต์ขุมพลังดีเซลที่ยังวางขายในยุโรปคือ Honda Civic และ Honda HR-V
ย้อนกลับไปในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Honda ได้ประกาศปิดโรงงาน Swindon ที่ประเทศอังกฤษอย่างเป็นทางการ ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อพนักงานกว่า 3,500 ตำแน่ง โดยฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัทเผยว่า “การปิดโรงงานเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างเครือข่ายการผลิตทั่วโลก และมุ่งเน้นกิจกรรมในภูมิภาคที่คาดว่าจะมีการผลิตในปริมาณที่สูง”
สุดท้ายโรงงานในเมือง Swindon ของฮอนด้า เป็นฐานผลิต Honda Civic สไตล์ 5 ประตู และ Honda Civic Type R รุ่นที่มีกำลังอันทรงพลัง
เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ได้ที่ Thaicarlover.com หรืออีกหนึ่งช่องทางง่ายๆ จากทางแฟนเพจ เพียงกด