กระแสรถยนต์พลังงานไฟฟ้าตอนนี้ช่างร้อน และมาแรงจริงๆ ทั้งค่ายรถญี่ปุ่น อเมริกา ยุโรป ต่างไม่ยอมน้อยหน้ากัน ร่วมเกาะกระแสรถยนต์พลังงานทางเลือกกันอย่างคึกคักกันเชียว ไม่เว้นแต่ค่ายรถเยอรมันอย่าง “เบนซ์”
อย่างนี้ Thaicarlover.com จะพลาดการเกาะกระแสระดับโลกของวงการรถยนต์ได้อย่างไรครับ ต้องนำข่าวสารมาเสนออย่างใกล้ชิด
ล่าสุดทางเมอร์เซเดส – เบนซ์ (Mercedes Benz) จัดงานเชิญสื่อมวลชนนานาชาติกว่า 125 คน มาร่วมทดสอบรถยนต์พลังงานไฮเทคด้วยการเดินทางระยะไกล ในชื่อโครงการ “Mercedes-Benz F-CELL World Drive” โดยจัดทริปเดินทางรอบโลกเป็นเวลา 125 วัน ด้วยยานพาหนะพลังงานเซลล์เชื้อเพลิงในรถยนต์เมอร์เซเดส – เบนซ์ รุ่น “ B-Class F-CELL ”
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงสมรรถนะและศักยภาพของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ใช้เทคโนโลยีพลังงานเซลล์เชื้อเพลิง F-CELL หรือ Fuel Cell ที่ ให้ความคุ้มค่าสูงสุดของการใช้พลังงาน รวมถึงความเหมาะสมของยานพาหนะสำหรับทุกการใช้งานในแต่ละวัน ในขณะเดียวกันทางบริษัทยังตั้งเป้าหมายยกระดับการพัฒนาด้านเครือข่าย สถานีบริการเติมก๊าซไฮโดรเจนทั่วโลกให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
Mercedes Benz เปิดตัวโครงการ “ F-CELL World Drive ” เริ่มออกเดินทางในวันที่ 30 มกราคม โดยใช้รถยนต์รุ่น B-Class F-CELL รถยนต์พลังงานเซลล์เชื้อเพลิง ใช้เป็นพาหนะในการเดินทางรอบโลก เป็นระยะเวลา 125 วัน และมีการขับขี่ผ่าน 4 ทวีป ทั่วโลก คือยุโรป สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลียและเอเชีย ซึ่งมีสภาพภูมิอากาศแตกต่างกัน รวมถึงเป็นเส้นทางการขับขี่บนพื้นผิวถนนที่มีความสมบุกสมบันแตกต่างกันไป ตั้งแต่ถนนลาดยางมะตอยไปจนถึงถนนที่เต็มไปด้วยดินลูกรัง เพื่อนำเสนอถึงความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์รุ่น B-Class F-CELL ซึ่งเป็นยานพาหนะรุ่นล่าสุดที่สามารถลดปริมาณการปล่อยของเสียออกสู่บรรยากาศและสามารถใช้ขับขี่ในการเดินทางระยะไกลได้อีกด้วย
โธมัส เวเบอร์ หนึ่งในสมาชิกคณะกรรมการบริหาร บริษัท เดมเลอร์ เอจี (Daimler AG) ซึ่งรับผิดชอบในส่วนของกลุ่มวิจัยและพัฒนารถยนต์ Mercedes Benz กล่าวว่า การจัดโครงการทริปเดินทางรอบโลกครั้งนี้เป็นการตอกย้ำถึงความก้าวหน้าทาง เทคโนโลยีขั้นสูงของเราในการผลิตยานพาหนะประหยัดพลังงานที่ใช้เซลล์เชื้อเพลิงเป็นเชื้อเพลิง โดยเทคโนโลยียานยนต์ในระดับนี้จะเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพไม่ได้หากเราใช้ เพียงแบตเตอรี่ไฟฟ้าเป็นแหล่งพลังงานให้กับรถยนต์เท่านั้น นอกจากนั้นในฐานะที่เราเป็นผู้ประดิษฐ์รถยนต์คันแรกของโลกเมื่อ 125 ปีแล้ว ในปัจจุบันเรายังคงพบปัญหาเกี่ยวกับการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการ ให้บริการเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์พลังงานเซลล์เชื้อเพลิงนี้ แต่เราก็มีความมั่นใจว่า หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในภาคส่วนต่างๆ ร่วมมือกัน จะทำให้เราได้รับประโยชน์สูงสุดจากศักยภาพของเทคโนโลยีนี้
การเดินทางระยะไกลในทริปพิเศษครั้งนี้จะใช้รถทั้งหมด 3 คัน โดยมีการขับผ่าน 14 ประเทศทั่วโลก เริ่มต้นจากทางตอนใต้ของทวีปยุโรปจากประเทศฝรั่งเศส ผ่านไปยังสเปนและโปรตุเกส และข้ามไปยังทวีปอเมริกาเหนือซึ่งประกอบด้วย ประเทศแคนาดาและสหรัฐอเมริกา จากนั้นจะข้ามมายังประเทศออสเตรเลีย และเข้าสู่ทวีปเอเชียมาทางประเทศจีน ผ่านไปยังประเทศคาซัคสถาน รัสเซีย ไปจนถึงจุดหมายในทิศเหนือของยุโรปโดยมาสิ้นสุดที่เมือง สตุทการ์ท ประเทศเยอรมนี อันเป็นจุดสิ้นสุดการเดินทางในช่วงต้นเดือนมิถุนายน รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 125 วัน ซึ่งแต่ละคันจะเดินทางเป็นระยะทาง 30,000 กิโลเมตร
เดินทางรอบโลกไปกับรถพลังงานไฮโดรเจน
รถยนต์เมอร์เซเดส – เบนซ์รุ่น B-Class F-CELL (บีคลาส เอฟ-เซลล์) ใช้เวลาในการเติมเชื้อเพลิงเพียง 3 นาทีและมีระยะการขับถึง 400 กิโลเมตรต่อการเติมไฮโดรเจนเต็มหนึ่งถัง ซึ่งเหมาะสมทั้งกับการใช้งานในทุกวันตามพื้นที่ในเมืองใหญ่และการขับขี่ในระยะทางไกล
หัวใจสำคัญอันเป็นขุมพลังแห่ง B-Class F-CELL ได้แก่ ระบบขับเคลื่อนแบบไฟฟ้าในเจนเนอเรชั่นใหม่ที่ใช้เซลล์เชื้อเพลิงเป็นเชื้อ เพลิง ประกอบกับตัวถังรถยนต์ในสไตล์คอมแพ็คแต่ทรงพลัง มีความปลอดภัยและเหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละวัน ซึ่งเซลล์เชื้อเพลิงเป็นเชื้อเพลิงที่สร้างพลังงานให้แก่ยานพาหนะจากปฏิกริยาเคมีระหว่างออกซิเจนและไฮโดรเจน โดยเทคโนโลยีพลังงานเซลล์เชื้อเพลิงเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่มีอนาคตสดใสที่สุดสำหรับยานยนต์ปลอดมลพิษ และยังเป็นแนวทางสำคัญอีกแนวทางหนึ่งของเดมเลอร์ในการก้าวสู่การขับเคลื่อนที่ไร้มลพิษ โดยทางบริษัทได้มีการพัฒนามาตั้งแต่เครื่องยนต์สันดาป เครื่องยนต์ระบบไฮบริด จนกระทั่งมาถึงเครื่องยนต์ที่ใช้การขับเคลื่อนด้วยพลังงานเซลล์เชื้อเพลิง โดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ซึ่งปลอดมลพิษโดยไม่ต้องประสบกับข้อจำกัดต่างๆ ที่พบในรถซึ่งขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว
ซึ่งการเดินทางรอบโลกของ “ Mercedes-Benz F-CELL World Drive ” ครั้งนี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่ารถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์รุ่น B-Class F-CELL ไม่เพียงสามารถรับมือกับสภาพถนนและสภาพอากาศที่ท้าทายได้เท่านั้น แต่ยังพร้อมที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับโลก และเป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันในทุกๆ สถานที่ นอกจากนี้ทางเบนซ์ยังปรารถนาที่จะส่งเสริมการพัฒนาให้มีสาธารณูปโภคสำหรับเชื้อเพลิง ไฮโดรเจนอย่างเพียงพอ เพื่อเป็นการสนับสนุนการเติบโตของเทคโนโลยีดังกล่าวด้วย
นำเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจมากครับ แต่โจทย์ที่จะทำให้รถพลังงานทางเลือกเหล่านี้ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย อาจจะอยู่ที่การตกลงเรื่องของมาตรฐานที่ชัดเจนของการใช้พลังงานทางเลือกของรถยนต์แต่ละค่าย เพราะคงต้องมีการลงทุนเรื่องสถานีจำหน่ายพลังงานทางเลือกรูปแบบต่างๆ
แต่ยังไงงานนี้ แฟนเบนซ์ทั้งหลายในบ้านเราคงจะต้องรอรุ่นดูครับว่า เจ้า B-Class F-CELL ตัวนี้จะมาอวดโฉมให้ชมกันในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปร 2554 (Motor Expo 2012) ในช่วงปลายปีนี้ หรือมอเตอร์โชว์ปี 2555 (Motor Show 2012) กันหรือป่าวครับ
อย่าพลาดติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถใหม่ รวมถึงความเคลื่อนไหวในวงการรถยนต์ทั้งไทย และต่างประเทศได้ใหม่กับ Thaicarlover.com ได้ใหม่ครับ