กลับมาอีกครั้ง กับเทคนิคดีๆ เพื่อคนรักรถ
วันนี้ทาง Thaicarlover.com ได้สรรหาความรู้เด็ดๆ มาฝากคนรักรถเกี่ยวกับเรื่อง ใบปัดน้ำฝน.. เรื่องที่ไม่ควรมองข้าม (ตอนที่ 1) หลังจากที่ได้แนะนำความรู้เกี่ยวกับเรื่อง พ่นกันสนิม… ใครว่าไม่สำคัญ ไปในตอนที่แล้ว
ช่วงหน้าฝนอย่างนี้ ใบปัดน้ำฝนถือเป็นสิ่งจำเป็น และไม่ควรมองข้ามเมื่อเราต้องใช้รถใช้ถนน เพราะช่วยในความปลอดภัยในการขับขี่ โดยทั่วไปนั้น ใบปัดน้ำฝนมีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกซื้อกัน ไม่ว่าจะมาจากค่ายฝรั่งเช่น บ๊อช แวริโอ หรือค่ายญี่ปุ่นเช่น เด็นโซ่ และเอ็น ดับบลิว ดี แต่ยี่ห้อ หรือใบปัดน้ำฝนชนิดไหนล่ะ ที่จะเหมาะกับรถยนต์คันเก่งของคุณ
ใบปัดน้ำฝน
วันนี้ทาง Thaicarlover.com จะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับชนิดของใบปัดน้ำฝนทั้งหมดที่มีอยู่ในตลาด พร้อมทั้งวิธีเลือกซื้อใบปัดน้ำฝนที่เหมาะสมให้กับคนรักรถ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเลือกซื้อใบปัดน้ำฝน สำหรับรถใหม่ รถป้ายแดง หรือรถยนต์มือสองคันเก่งของคุณครับ
ใบปัดน้ำฝน Bosch
ความเข้าใจเกี่ยวกับใบปัดน้ำฝน
หลายๆ คนอาจมีความเข้าใจผิดกันมาตลอดว่า ใบปัดน้ำฝนที่ดีนั้น จะต้องปัดน้ำฝนให้หมดไปจากกระจก แต่แท้ที่จริงแล้วการทำงานของใบปัดน้ำฝนนั้น จะปาดน้ำฝน โดยมีช่องว่างระหว่างกระจก และน้ำฝนประมาณ 0.01- 0.05 มม. เพื่อสร้างผิวฟิล์มบนกระจก หรือเรียกง่ายๆ ว่าการปาดน้ำให้เรียบนั่นเอง แต่ไม่ใช่เป็นการปาดน้ำทั้งหมดออกไปจากกระจก มิฉะนั้น หากออกแบบให้ใบปัดอยู่ติดกับกระจกมากเกินไปแล้ว จะทำให้เกิดปัญหาใบปัดสะดุด และสั่นกระพือเมื่อใช้งาน
ชนิดของใบปัดน้ำฝน
ส่วนชนิดของใบปัดน้ำฝนที่จำหน่ายในท้องตลาดปัจจุบัน สามารถแบ่งได้ 3 ชนิด ได้แก่
1. ชนิดแบบมีโครงเหล็ก (Conventional Wiper Blade) ใบปัดน้ำฝนแบบนี้เป็นแบบดั้งเดิม ท่านจะสังเกตเห็นโครงเหล็กแขนยางปัดน้ำฝน และใบปัดน้ำฝน แบบนี้มีให้เห็นโดยทั่วไป ใบปัดน้ำฝนชนิดนี้จะใช้ได้ดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับปัจจัยดังต่อไปนี้
Conventional Wiper Blade
– คุณภาพของยาง ยางคุณภาพดีส่วนมากก็มาจากประเทศไทยและมาเลเซีย ผู้ผลิตจะใส่สารปรุงแต่งบางตัวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น สารต่อต้านแสงยูวี คาร์บอนแบลค
– จำนวนจุดที่เป็นข้อต่อบนแขนของใบปัดน้ำฝน ยิ่งมีจุดข้อต่อมาก ยิ่งกระจายแรงกดไปบนยางรีดน้ำฝนดี ทำให้ใบปัดน้ำฝนปัดน้ำได้สะอาดเกลี้ยงเกลา ไม่ทิ้งคราบน้ำ
– การออกแบบโครงเหล็ก ปัจจุบันมีผู้ผลิตหลายรายออกแบบโครงเหล็กให้มีความโค้งมนรับกับแรงลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ ทำให้เกิดการกระพือของใบปัดน้ำฝนน้อยแม้จะวิ่งรถด้วยความเร็วสูง
พบกันใหม่กับเทคนิคดีๆ กับการดูแลรักษารถยนต์ สำหรับคนรักรถ จาก Thaicarlover.com ได้ใหม่สวัสดีครับ