กลับมาอีกครั้ง กับเทคนิคดีๆ เพื่อคนรักรถ
วันนี้ทาง Thaicarlover.com ได้สรรหาความรู้เด็ดๆ มาฝากคนรักรถเกี่ยวกับเรื่อง ไส้กรองน้ำมันเครื่อง.. กับเรื่องน่ารู้ หลังจากที่ได้แนะนำความรู้เกี่ยวกับเรื่อง เทคนิคการดูแลหม้อน้ำในหน้าร้อน ไปในตอนที่แล้ว
มีผู้ใช้รถยนต์จำนวนไม่น้อย ที่ใช้ไส้กรองน้ำมันเครื่องของเทียม จะด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ หลายๆ คนอาจคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญ แค่ได้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และเปลี่ยนไส้กรองก็พอใจแล้ว จะแท้จะเทียมก็ไม่สนใจ หรืออาจได้รับข้อมูลมาแบบผิดๆ ว่าไม่ว่าไส้กรองจะแท้ หรือจะเทียมก็เหมือนๆ กัน หรือมาจากโรงงานเดียวกันด้วยซ้ำ แล้วจะไปใช้ของแท้ให้เปลืองเงินไปทำไม ซึ่งจริงๆ แล้วความคิดเหล่านี้เป็นความคิดที่ผิดมหันต์เลยทีเดียว
แน่นอนว่า ไส้กรองน้ำมันเครื่องของเทียมนั้นก็ ‘ใช้ได้’ ไม่ใช่ว่าใส่ไปแล้ว เครื่องจะพังวันนี้ พรุ่งนี้ เสียเมื่อไหร่ แต่ในระยะยาวนั้น ย่อมมีผลต่ออายุการใช้งานของเครื่องยนต์อย่างแน่นอน ซึ่งก็ใช่ว่าเราจะใช้รถยนต์แค่วันนี้ พรุ่งนี้เช่นกัน
วันนี้ทาง Thaicarlover.com จะมาพูดถึงความสำคัญของการใช้ไส้กรองน้ำมันเครื่องแท้กัน
ไส้กรองน้ำมันเครื่อง (Oil Filter) ส่วนใหญ่ที่เราใช้กันอยู่นั้น เรียกว่า ไส้กรองแบบ คาร์ทริจด์ (Cartridge) คือ มีลักษณะเป็นกระป๋องเหล็ก ภายในจะมีไส้กรองกระดาษพับทบไปมา เวลาเปลี่ยนก็หมุนออกแล้วถอดทิ้งไปทั้งตัว เป็นที่ทราบกันดีว่า หน้าที่หลักของมันคือ ‘กรองน้ำมันเครื่อง’ โดยอาศัยวิธีการให้น้ำมันเครื่องที่ผ่านการใช้งานแล้ว ซึมผ่านกระดาษกรองเข้าไปสู่แกนกลางของตัวกรอง จากนั้นจึงส่งน้ำมันไปยังจุดหล่อลื่นต่างๆ ของเครื่องยนต์ โดยทิ้งสิ่งแปลกปลอม เช่น เขม่า, เศษโลหะเล็กๆ และฝุ่นผงต่างๆ ไว้ที่กระดาษกรอง
ดังนั้น กระดาษกรอง จึงเป็นหัวใจหลักในการทำหน้าที่ของไส้กรองน้ำมันเครื่อง ซึ่งในตัวไส้กรองนั้นจะประกอบไปด้วย
บายพาส วาล์ว (Bypass Valve) หรือ เซฟตี้ วาล์ว (Safety Valve) อยู่ตัวหนึ่ง ที่จะทำหน้าที่ระบายน้ำมันเครื่องให้เข้าไปสู่จุดหล่อลื่นต่างๆ ในเครื่องยนต์ โดยไม่ต้องผ่านกระดาษกรอง นั่นคือ เมื่อมีปัญหากรณี ‘ไส้กรองอุดตัน’ ตัวบายพาส วาล์วจะส่งน้ำมันเครื่องไปใช้ก่อน ไม่งั้นตัวเครื่องยนต์จะพังถ้าไม่มีน้ำมันไปหล่อเลี้ยง
ซึ่งในไส้กรองน้ำมันเครื่องเทียมนั้น ก็จะมีไอ้เจ้าวาล์วตัวนี้เหมือนกัน แต่สปริงที่ใช้นั้นจะไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งถ้าแข็งเกินไป เวลากรองตันขึ้นมา ก็อาจทำให้น้ำมันเครื่องไม่พอไปหล่อเลี้ยงเครื่องยนต์ หรือในทางกลับกัน ถ้าสปริงอ่อนเกินไป วาล์วเกิดเปิดเร็วกว่าที่ควร ก็หมายความว่า น้ำมันเครื่องที่ขึ้นไปหล่อลื่นนั้น ไม่มีการกรองใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งนั่นทำให้เครื่องยนต์สึกหรอเร็วกว่าที่ควรจะเป็น
นอกจากนั้น ทางด้านล่างของตัวกรอง ยังมีแผ่นไดอะแฟรม เป็นแผ่นยางกลมๆ มีสปริงบางๆ กดอยู่ ซึ่งเจ้าตัวนี้จะทำหน้าที่ ‘กักน้ำมันเครื่องไว้ หลังจากที่เราดับเครื่อง’ เพื่อเวลาที่เราจอดรถทิ้งไว้ แล้วกลับมาสตาร์ทเครื่องยนต์ตอนเช้า จะมีน้ำมันขึ้นไปหล่อลื่นตามจุดต่างๆ อย่างรวดเร็ว เพราะเครื่องยนต์จะสึกหรอมากในช่วงเริ่มติดเครื่องยนต์ ซึ่งมักจะพบว่า ไส้กรองน้ำมันเครื่องเทียมมักทำหน้าที่นี้ได้ไม่ดีเท่าที่ควร
ซึ่งสามารถสังเกตได้จากเวลาจอดรถค้างคืน พอติดเครื่องจะพบอาการ ไฟเตือนความดันน้ำมันเครื่องดับช้ากว่าปกติ ซึ่งทำให้เครื่องยนต์สึกหรอมากขึ้นโดยไม่จำเป็น หรือถ้าเราเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเอง เวลาถอดไส้กรองน้ำมันเครื่องของเทียมออกมา จะพบว่า ไม่มีน้ำมันเครื่องอยู่ในไส้กรอง
ดังนั้น ไส้กรองน้ำมันเครื่องที่คุณใช้อยู่ ไม่ได้เป็นแค่ ‘ตัวกรอง’ เพียงอย่างเดียว ยังต้องเป็นตัว ‘ป้องกัน’ การขาดน้ำมันเครื่อง เมื่อกรองตันด้วย (อย่าลืมว่า ถ้าทำงานเร็วไป ก็เหมือนไม่ได้กรอง)
ซึ่งทาง Thaicarlover.com ก็หวังว่าข้อมูลเหล่านี้ จะช่วยให้คุณพิถีพิถัน ในการเลือกใช้ไส้กรองน้ำมันเครื่องมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่า มันมีผลต่ออายุการใช้งานของรถยนต์คุณโดยตรง และจำไว้ว่าอะไหล่รถยนต์บางอย่างไม่จำเป็นต้องใช้ของแท้ (แพงเว่อร์) แต่บางอย่างนั้น การใช้ของแท้ก็คุ้มกว่าเห็นๆ อย่างเช่น ไส้กรองน้ำมันเครื่อง ซึ่งแม้ว่าจะไม่ได้ผลิตจากโรงงานผู้ผลิตรถยนต์โดยตรง แต่มันก็ได้รับการทดสอบ และทดลองมาอย่างดีแล้ว ว่าเหมาะสมกับรถยนต์นั้นๆ และที่สำคัญเมื่อเปรียบเทียบความคุ้มค่ากับราคาแล้ว ก็ถือว่าไม่แพงเลยทีเดียว
เริ่มต้นจากเรื่องง่ายๆ ซึ่งการดูแลรักษารถยนต์ด้วยตัวเองไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าเรารู้หลักการทำงานเล็กๆ น้อยๆ เอาไว้บ้าง ก็จะทำให้รถคันโปรดนั้นอยู่กับเราไปนานๆ
พบกันใหม่กับเทคนิคดีๆ กับการดูแลรักษารถยนต์ สำหรับคนรักรถ จาก Thaicarlover.com ได้ใหม่สวัสดีครับ