หลังจากที่ Thaicarlover.com ได้แนะนำผู้อ่านถึงเรื่อง ทำอย่างไร… เมื่อรถยางแตก ไปใน 2 ตอนที่แล้ว วันนี้เราจะมาแนะนำกันต่อกับหัวข้อเรื่อง 7 อุปกรณ์ไฮเทคติดรถยนต์ที่น่าสนใจ (ตอนที่ 1) กันครับ
หลายปีที่ผ่านมานี้ มีอุปกรณ์ไฮเทคมากมายที่เพิ่มเข้ามาในรถยนต์ อาทิเช่น แผนที่ดิจิตอลในรถยนต์ หรือ Navigator และ GPS ที่เรารู้จักกันดีในตอนนี้ ย้อนกลับไปสัก 4-5 ปีที่แล้ว ยังเป็นเรื่องใหม่ที่มีคนส่วนน้อยเท่านั้นที่รู้ โดยเฉพาะกับการใช้ในรถยนต์ แต่ในปัจจุบันรถยนต์ระดับ 1 ล้านบาทขึ้นไปมักจะมี Navigator หรือ GPS เป็นอุปกรณ์มาตรฐานมาให้ ซึ่งทำให้ผู้ขับขี่ได้รับความสะดวกในการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ด้วยเส้นทางที่ถูกต้องประหยัดเวลาได้มากที่สุด และ Navigator หรือ GPS ก็กลายเป็นออฟชั่นที่ทำให้ผู้ใช้รถทั้งหลายอยากมีไว้ใช้กันมากขึ้นเรื่อยๆ
ความไฮเทคที่มุ่งเน้นไปในเรื่องความปลอดภัยถูกคิดค้นออกมาเรื่อยๆ อย่างเรื่องที่รถสามารถเบรก หรือหยุดได้เองในช่วงที่การจราจรติดขัด โดยที่คุณไม่ต้องแตะเบรกเลย หรือรถยนต์เข้าจอดได้เองในแบบขนานเพียงแค่กดปุ่มเท่านั้น (อย่างใน Benz บางรุ่น) หรือ รถยนต์ที่สามารถเบรกอัตโนมัติเมื่อเห็นคนกำลังข้ามถนน ซึ่งขณะนั้นคุณอาจจะไม่ได้มองทางข้างหน้าอยู่ ด้วยซ้ำ
และต่อจากนี้จะเป็น 7 ความไฮเทคที่อาจจะมากับรถของคุณในวันข้างหน้า หรือวันนี้ถ้าคุณมีเงินมากพอซื้อรถหรูระดับพรีเมี่ยมได้ เทคโนโลยีที่โดดเด่นของอุปกรณ์เหล่านี้ทำให้ ราคาของรถยนต์ที่ติดตั้งมันเข้าไปต้องขยับสูงจนอยู่ในระดับที่แพงกว่ารถหรูทั่วไป ไม่อย่างนั้นแล้ว ใครที่อยากได้ก็อาจจะต้องจ่ายเพิ่มต่างหากเพื่อติดตั้งเพิ่ม ซึ่งก็ต้องจ่ายด้วยเงินก้อนโตอยู่ดี
อย่างไรก็ตาม ครั้งหนึ่งความไฮเทคอย่าง ระบบเบรก ABS, ระบบควบคุมการทรงตัว อย่าง ESP หรือ VSC หรือแล้วแต่จะเรียกในรถแต่ละยี่ห้อ รวมไปถึงระบบนำทาง Navigator ที่มีราคาแพงในช่วงแรกที่เปิดตัว ทั้งหมดได้กลายเป็นอุปกรณ์ติดรถยนต์ทั่วไปในปัจจุบันไปแล้ว เราจึงหวังว่า ความไฮเทคใหม่ๆที่กำลังจะทยอยออกมาในตอนนี้ วันหนึ่งข้างหน้า มันก็อาจมาอยู่ในรถตลาดทั่วไปในระดับราคาที่ซื้อหากันได้ไม่ยาก เหมือนกับรถที่มี ABS หรือ Airbag ทุกวันนี้
รถยนต์สามารถเข้าจอดเองได้
ใครที่เคยคิดว่าการจอดเทียบฟุตบาทเป็นเรื่องท้าทายล่ะก็ (หนึ่งในการสอบปฏิบัติใบขับขี่) ลองดูเทคโนโลยีอันนี้หน่อยเป็นไง รถ Lexus LS รุ่นใหม่จะมีระบบช่วยจอดอัจฉริยะ ซึ่งสามารถเข้าจอดเทียบฟุตบาทได้เองเพียงแค่กดปุ่มแล้วนั่งฟังเพลงรออยู่ในรถ หรือใน Toyota PRIUS ก็มีระบบนี้เช่นกัน แต่ระบบนี้ก็ยังต้องการความช่วยเหลือจากคนขับอยู่บ้างคือ ต้องแตะเบรคช่วยนิดหน่อย แต่ก่อนจะใช้ระบบนี้ได้ คนขับอย่างเราต้องหาที่ว่างจอดให้ได้เสียก่อน (อันที่จริงอยากได้ระบบคันหาที่จอดรถตามห้างแล้วล็อคเอาไว้เลย ส่วนการถอยจอดขอทำเองก็ได้)
ไม่มีจุดซ่อนเร้นในการมองรถยนต์ด้านหลังอีกต่อไป
หลายครั้งที่อุบัติเหตุเกิดขึ้นจากการขับเปลี่ยนเลนโดยที่คนขับไม่ทันระวังรถยนต์ที่แล่นอยู่ด้านข้าง ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการที่ตำแหน่งรถด้านข้างไปตกอยู่ในจุดที่เราเรียกกันว่า ‘จุดบอด’ (Blind Spot) ซึ่งปัญหาตรงนี้เป็นเรื่องที่ความปลอดภัยที่ถูกมองข้ามมานาน และตั้งแต่ในปี 2007 เป็นต้นมา ค่ายรถยุโรปอย่าง Audi และ Volvo ก็นำเอาระบบช่วยเตือนรถในจุดบอดด้านข้างมาใช้กับรถของตน โดยระบบที่ว่าจะมีเรดาร์หรือกล้องตรวจจับรถหรือวัตถุเคลื่อนที่เข้ามาในโซนจุดบอด ซึ่งติดตั้งอยู่ที่กระจกมองข้างทั้งสองด้าน พอตรวจจับได้ประกอบกับที่รถมีการเปลี่ยนเลนออกไป ไฟ Led ที่กระจกมองข้างด้านนั้นๆก็จะติดเพื่อเตือนคนขับให้ชะลอไว้ก่อน ในรถ Audi Q7 ใช้ระบบ Side Assist ที่มี ใช้เรดาร์เป็นตัวจับ ขณะที่ Volvo S80 ใช้ระบบ Blind Spot Information โดยกล้องด้านข้าง
พบกันใหม่กับเทคนิคดีๆ กับการดูแลรักษารถยนต์ สำหรับคนรักรถ จาก Thaicarlover.com ได้ใหม่สวัสดีครับ