หลังจากที่ Thaicarlover.com ได้แนะนำผู้อ่านถึงเรื่อง 7 อุปกรณ์ไฮเทคติดรถยนต์ที่น่าสนใจ (ตอนที่ 2) ไปในตอนที่แล้ว วันนี้เราจะมาแนะนำกันต่อกับหัวข้อเรื่อง 7 อุปกรณ์ไฮเทคติดรถยนต์ที่น่าสนใจ (ตอนที่ 3) กันครับ
กระจกรถแบบปรับความเข้มของแสงได้
กระจกส่องหลังไฟฟ้า ที่ลดแสงสว่างอัตโนมัติเวลาโดนไฟรถคันหลังส่อง ถูกนำมาใช้ในรถยนต์ทั่วไปอย่างแพร่หลายในช่วงปีที่ผ่านมา และตอนนี้แนวคิดของมันก็ได้ถูกนำไปประยุกต์ใช้กับกระจกรถแล้ว
ตัวอย่างคือ เฟอร์รารี่ ที่นำเอาหลังคาแก้วปรับไฟฟ้า มาใช้กับรุ่น 575 Super America เวอร์ชั่นปี 2005 ซึ่งผลิตออกมาจำกัดให้กับลูกค้าคนสำคัญของเฟอร์รารี่ในอเมริกา ซึ่งหลังคาแก้วไฟฟ้านี้ สามารถปรับความเข้มของแสงได้ 5 ระดับ จากการกดปุ่มภายในรถ ซึ่งทาง Fioravanti ผู้ผลิตระบบที่ว่านี้อ้างว่า มันจะช่วยลดพลังงานแสงอาทิตย์ลงได้ประมาณ 20% และลดแสงผ่านเข้ามาได้มากที่สุด 40% ซึ่งปัจจุบัน แม้ว่า Super America จะเลิกผลิตไปแล้ว แต่ผู้ประกอบการเกี่ยวกับกระจกรถต่าง ก็เริ่มหันมาสนใจเทคโนโลยีที่ว่านี้ และมีแผนที่จะนำมาใช้กับรถทั่วไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าด้วย
ระบบนำทางภาพเหมือนจริง
การแสดงภาพของระบบนำทาง GPS ในปัจจุบัน จะเป็นภาพที่เหมือนกับที่เราเห็นในแผนที่ คือมองจากบนลงมา แต่ตอนนี้ผู้ผลิตระบบนำทางหลายค่ายได้ทำให้มันมีคุณสมบัติแบบ3D คือมองเป็นภาพเสมือนจริงมากขึ้น นอกจากมุมสูงแบบ 3D แล้วยังมองในแนวราบได้อีกด้วย ซึ่งในไม่ช้ามันจะเป็นออปชั่นพิเศษของรถให้เราเลือก และการมองเหมือนแผนที่แบบเก่าๆ จะถูกยกเลิกไป ซึ่งคาดว่าจะเป็นระบบนำทางมาตราฐานในอนาคต เพราะระบบที่เราเห็นอยู่บนรถบ้านเราในปัจจุบันนั้นดีกว่าแค่เปิดแผนที่ดูเองนิดหน่อยเท่านั้น (ในญี่ปุ่นมีการใช้อย่างแพร่หลายแล้ว)
ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะไม่หยุดแค่การทำเป็นภาพกราฟฟิก 3D เพราะต่อไปมันจะเป็นภาพถ่ายจริงแบบที่สายตาเราเห็น โดยมันจะแสดงภาพของถนน และสิ่งรอบข้างเหมือนที่เราเห็นจากภาพถ่ายดาวเทียม ซึ่งบริษัทผู้ผลิตเรียกมันว่า 3DVU ซึ่งตอนนี้มีใช้กับระบบนำทางแบบมือถือที่ญี่ปุ่นแล้ว และจะนำมาลงในระบบนำทางของรถเกาหลีรุ่นใหม่เป็นรายแรก
ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายเตรียมนำเอา 3DVU มาเป็นออปชั่นของระบบนำทางในรถตัวเอง โดยคาดการณ์ว่าจะเป็นที่แพร่หลายในอเมริกาภายในปีนี้ ซึ่งถึงตอนนั้นภาพที่ได้จะยิ่งเหมือนจริงมากขึ้น ภูเขาก็จะดูเป็นภูเขาจริงๆ และอนาคตต่อไปจะมีการเพิ่มระดับท้องถนนของเมืองสำคัญๆเข้าไปด้วย ซึ่งจะรวมถึงตึกและสิ่งก่อสร้างที่สำคัญ
เทคโนโลยีทั้ง 7 อย่างนี้ อาจะเป็นแค่ส่วนหนึ่งของนวัตกรรมที่เกิดกับรถยนต์ และเชื่อว่ามันจะมีอย่างอื่นออกมาอีกเรื่อยๆ ซึ่งด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้ ได้เพิ่มคุณค่าให้กับตัวรถ บางทีมันอาจจะเป็นคำตอบให้กับหลายคนว่าทำไมรถยุคนี้แพงขึ้น แม้ว่าค่าเงินจะเปลี่ยนไปก็ตาม ดูอย่าง Lexus LS ที่มีเศรษฐีหลายคนบอกว่า รถญี่ปุ่นอะไรแพงโอเวอร์ แต่ถ้าลองพิจารณาดูเทคโนโลยีในรถรุ่นนี้ดูก็จะรู้ว่าทำไม ซึ่งบางครั้งผู้เขียนก็สงสัยในราคาของรถยุโรปบางยี่ห้อว่า แพงเพราะเทคโนโลยี, อุปกรณ์ที่อำนวยความสะดวก, การประกอบ หรือว่า แบรนด์ กันแน่
พบกันใหม่กับเทคนิคดีๆ กับการดูแลรักษารถยนต์ สำหรับคนรักรถ จาก Thaicarlover.com ได้ใหม่สวัสดีครับ