Electric Brands บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าสตาร์ทอัปจากเยอรมนีได้เผยโฉม XBus ใหม่ซึ่งก่อนหน้านี้ Xbus นั้นได้ถูกนำเสนอแนวคิดไปเมื่อช่วงปีที่แล้ว ซึ่งถูกเรียกว่า ebussy และบริษัทก็ได้มีการอัพเดทภาพเรนเดอร์ของตัวรถออกมาเรื่อยๆ จนล่าสุดได้เปิดตัวออกสู่สาธารณะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ภายนอก XBus
สำหรับ Xbus นั้น จะมาพร้อมตัวถังขนาดเล็ก มีความยาว 3,945 มม กว้าง 1,691 มม สูง 2,038 มม ระยะฐานล้อยาว 2,200 มม ซึ่งรุ่น STANDARD นั้นจะมีตัวถังเล็กลงไปอีกเล็กน้อย โดยตัวรถนั้นมีน้ำหนักประมาณ 500 – 800 กิโลกรัม ไม่รวมแบตเตอรี่ และสามารถบรรทุกได้สูงสุด 800 – 1,100 กิโลกรัม
จุดเด่นสำหรับ Electric Brands คือตัวรถสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ถึง 10 รูปแบบ เช่น รถตู้โดยสาร (Bus), รถตู้ทึบ (Universal), รถกระบะ (Tipper) ไปจนถึงรถบ้าน (Camper) เป็นต้น ด้วยหน้าตาที่ดูน่ารัก มีความโค้งมนในการออกแบบ มีรูปที่หลากหลาย ทั้งรถ 4 ประตู หรือ 2 ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกได้
ภายใน XBus
ภายในห้องโดยสารถูกตกแต่งอย่างเรียบง่าย ปุ่มควบคุมต่างๆรวมเอาไว้ที่พวงมาลัย แม้แต่เกียร์ก็สามารถกดที่พวงลัยได้ ไม่ว่าจะเดินหน้าหรือถอยหลัง พร้อมด้วยจอแสดงข้อมูลต่างๆขนาดเล็ก บอกสถานะต่างๆของตัวรถ ปริมาณแบตเตอรี่ และระยะทางขับขี่เท่านั้น
ส่วนตรงโซนกลางก็ยังมีหน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาด 10.2 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ระบบเชื่อมต่อบลูทูธ และระบบกุญแจ Keyless Entry & Go
ขุมพลัง XBus
มอเตอร์ไฟฟ้า ได้ติดตั้งไว้ที่ดุมล้อ มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ติดตั้งมากับแบตเตอรี่ขนาด 10 kWh ที่วิ่งได้ไกลราว 200 กิโลเมตร ยังมีออพชั่นแบตขนาด 30 kWh ให้เลือก ทำให้วิ่งได้ไกลเป็น 600 กิโลเมตร
ระบบขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าสี่ล้อ ให้กำลังสูงสุด 76 แรงม้า แรงบิดมากถึง 1,000 นิวตันเมตร มีความเร็วสูงสุด 100 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง และหลังคายังติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์รองรับการชาร์จไฟจากพลังงานแสงอาทิตย์ ที่สามารถผลิตกระแสไฟได้สูงสุด 800 วัตต์ต่อชั่วโมงอีกด้วย
รุ่นการผลิต
- XBUS OFFROAD
- XBUS STANDARD
ราคาจำหน่าย XBus
Electric Brands XBus ในเยอรมนีเริ่มต้นที่ 17,380 ยูโร หรือประมาณ 670,000 บาท ในตัวถังแบบแค็บแชสซีส์ (Freedom) ส่วนตัวถังที่มีราคาสูงสุดคือรถบ้าน (Camper) อยู่ที่ 29,480 ยูโร หรือประมาณ 1,140,000 บาท ขณะที่เวอร์ชันออฟโรดจะมีราคาเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย โดยทาง Electric Brand เปิดเผยว่า หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน ขั้นตอนการผลิตจะเริ่มขึ้นในช่วงกลางปี 2022 ณ เมืองอิทเซโฮ ประเทศเยอรมนี
เพื่อน ๆ สามารถติดตามข่าวสารการเปิดตัวรถยนต์ และนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ได้ที่ Thaicarlover.com หรืออีกหนึ่งช่องทางง่ายๆ จากทางแฟนเพจ เพียงกด