วันนี้ Thaicarlover มีรถยนต์มือสองอีกรุ่นนึงที่น่าสนใจมาให้ลองพิจารณาเป็นอีกตัวเลือก สำหรับใครที่กำลังมองหารถอเนกประสงค์ ที่เมื่อเทียบราคากับสมรรถนะแล้ว ถือว่าคุ้มค่า และไม่แพงจนเกินไป
โดยรถที่จะมาแนะนำในวันนี้จะเป็น Ford Everest Navi Edition 2.5 L ครับ

Ford Everest เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกลาง 7 ที่นั่ง สำหรับครอบครัว ในรูปแบบ “รถปิกอัพดัดแปลง” (PPV) กับการอวดโฉมเป็นรุ่นที่ 2 ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2549 ที่เพิ่มความสะดวกสบายได้อย่างไม่แพ้ SUV อื่นๆ ซึ่งจุดเด่นคงหนีไม่พ้น ระบบนำทางผ่านดาวเทียม หรือที่หลายๆ คนรู้จักกันในชื่อระบบว่า “Navigation System”

Ford Everest - Back

Ford Everest Navi Edition 2.5 L นี้มีรูปทรงดุดัน แกร่ง สไตล์ FORD โดยรูปร่างที่เห็นภายนอกนับว่าจะคุ้นหูคุ้นตา เพราะมีหน้าตาเหมือนเดิม เส้นสายของตัวถังที่ยาว กว้าง และสูง อยู่ที่ 5,009 x 1,804 x 1,835 มิลลิเมตร กระจังหน้าเติมความหรูหราโดดเด่นไว้กับโลโก้ฟอร์ด พร้อมกันชนหน้าที่เสริมตัวการ์ดกันชนสีเดียวกับตัวรถ เว้ารับกับไฟหน้า แบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ ส่วนด้านข้างตัวถังรถจะโดดเด่นด้วยไฟส่องด้านข้างจากหลอด LED ที่ติดไว้ใต้กระจกมองข้าง ที่จะส่องสว่างทุกครั้ง เมื่อกดรีโมทปลดล็อกรถ ทั้งนี้ มือจับประตูรูปแบบ Grip Type โครเมียมที่เป็นจุดเล็กๆ น้อยๆ ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ของรถให้ดูหรูหราขึ้นอีกด้วย

Ford Everest

ส่วนภายใน Ford Everest Navi Edition 2.5 L จะดููกว้างขวาง นั่งสบาย ในทุกตำแหน่งที่นั่ง เมื่อเปิดประตูรถแล้วมองเข้าไปภายใน ก็ต้องบอกว่า มันก็คือ Ranger กระบะร่วมค่ายนั่นเอง และคงไม่แปลกอะไรเพราะ Ford Everest ได้นำเอา Ford Ranger มาเป็นพื้นฐาน แต่ทำการตกแต่งใหม่ให้เหมาะสมแบบรถยนต์อเนกประสงค์ ทั้งตำแหน่งที่นั่งที่มากถึง 3 แถว 7 ที่นั่ง

ภายใน Ford Everest

นอกจากนี้ การตกแต่งภายในจะใช้สีแบบทูโทนระหว่างสีดำ และสีเบจ ตัดกับลายไม้ที่ให้ความหรูหรา พร้อมพวงมาลัยขนาด 380 มม. 4 ก้าน หุ้มหนังจับกระชับมือ ส่วนอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ก็มาอย่างครบถ้วน อาทิเช่น ระบบเครื่องเสียงที่เล่นซีดีได้ถึง 6 แผ่นที่เดิมเป็นแบบ Built in เปลี่ยนเป็นเครื่องเสียงของ Alpine แบบ 2 DIN ที่เป็นจอแสดงผลขนาด 6.5 นิ้ว แบบทัชสกรีน ซึ่งเล่นได้ทั้ง CD DVD MP3 ดูหนัง ฟังเพลงได้เต็มที่กับจอติดเพดานด้านหลังขนาด 8 นิ้ว รวมถึงความโดดของระบบนำทางผ่านดาวเทียมอย่าง “Navigation System” หรือ “GPS” ด้วยซอฟต์แวร์ของ SPEED NAVI ซึ่งนับว่าเป็นโปรแกรมยอดฮิต และใช้งานง่าย!

ส่วนด้านขุมกำลัง Ford Everest Navi Edition 2.5 L จะเป็นแบบรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ พกพาเครื่องยนต์ “WLC-TDCi” Duratorq TDCI (Turbo Diesel Commonrail Injection) ขนาดเล็กลงมาหน่อย เป็นเครื่องยนต์พิกัด 2.5 ลิตร ที่มีปริมาตรความจุกระบอกสูบเพียง 2,499 ซี.ซี. กับช่วงชัก 92.0 มม. และความกว้างกระบอกสูบที่ 93.0 มม. รูปแบบเครื่องยนต์จะเป็นแบบ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว ไดเร็กอินเจ็กชั่น คอมมอนเรล ที่ทำงานควบคู่ไปกับเทอร์โบของ Garrett ที่พกระบบแปรผันแบบ VGT ควบคุมการสั่งจ่ายน้ำมันด้วย เทคโนโลยีคอมมอนเรล รุ่นล่าสุดของ Bosch และสั่งการทำงานด้วยกล่อง PCM (Power Plant Control Module) และควบคุมการทำงานด้วย Electronic Control Unit หรือที่รู้จักกันว่า กล่อง ECU ตอบสนองแรงม้าสูงสุดถึง 143 แรงม้า ที่ 3,200 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงถึง 330 นิวตันเมตรที่ 1,800 รอบต่อนาที

ส่วนราคา ฟอร์ด เอเวอเรสต์ นาวี่ Edition มือสองจะเริ่มต้นที่ประมาณ 650,000 บาท ขึ้นอยู่กับสภาพรถยนต์ โดยถูกกว่ามือหนึ่งที่ตอนนี้มีราคาอยู่ที่ 975,000 บาท อยู่มากเลยทีเดียวครับ

โดยภาพรวมต้องถือว่า Ford Everest Navi Edition 2.5 L จัดเป็นรถอนเกประสงค์ที่น่าใช้ และคุ้มค่าน่าลงทุนพอสมควร สำหรับผู้ที่ต้องการหารถอเนกประสงค์พันธุ์แกร่ง สำหรับใครที่กำลังมองหารถอเนกประสงค์มือสอง ก็ห้ามพลาดเก็บเจ้า Ford Everest Navi Edition 2.5 L ไว้พิจารณากันนะครับ

ส่วนการหาซื้อรถยนต์มือสองนั้น
หากมีประสบการณ์และความรู้บ้าง ก็ไม่ยากครับ
แต่หากไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับรถยนต์มือสองสักเท่าใดนัก
แนะนำให้หาผู้ที่มีความรู้ ดูรถยนต์ ดูเครื่องยนต์ เป็นไปช่วยดู ก็จะดีครับ

พบกับรถมือสองแนะนำดีๆ จาก Thaicarlover.com ได้ใหม่ในตอนหน้า สวัสดีครับ